อาร์ซาแดงสั่งลา!สิงห์10ตัวทื่อเจ๊าหงส์ขาวไร้สกอร์ร่วงลีกคัพ
"สิงห์บลูส์"เชลซีจอดป้ายลีก คัพอยู่ที่รอบรองชนะเลิศเท่านั้นหลังเจาะเกมรับของ"หงส์ขาว"สวอนซี ซิตี้ไม่เข้าเลยแถมอาร์ซายังไปโดนแดงท้ายเกมเพราะเตะเด็กเก็บบอลอีกหลังเด็กมันไม่ยอมคืนบอล สุดท้ายจบด้วยผลเสมอ 0-0
ฟุตบอลแคปิตอล วัน คัพรอบรองชนะเลิศ นัด 2
สนาม : ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม
วันพุธที่ 23 มกราคม 2556
สวอนซี ซิตี้ 0:0 เชลซี
(รวมสองนัดสวอนซีผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-0)
ประตู : -
เกมนี้ชิโก้ฟิตลงสนามให้พวกเขาได้และเทรมเมลก็ลงมาเฝ้าเสาตามคาดเพราะเป็นเกมบอลถ้วย ด้านเชลซีเทอร์รี่ยังมีชื่อเป็นสำรองอยู่เหมือนเดิม นอกนั้นมาครบยกเว้นตอร์เรสที่โดนดร็อปแล้วเปิดทางให้บาก้าวขึ้นไปเป็นตัวจริง
ทาง"สิงห์บลูส์"ต้องลุ้นหนักสำหรับเกมนี้หลังนัดแรกพวกเขาแพ้มา 2-0 คาบ้านตัวเอง หนก่อนที่มาเล่นในลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยมก็เสมอไป 1-1 ส่วนทาง"หงส์ขาว"พวกเขากำลังลุ้นสำหรับการผ่านเข้ารอบลีก คัพนัดชิงชนะเลิศเป็นหนแรก
ครึ่งแรก
เปิดฉากมาหงส์ขาวบุกน่ากลัว
ต้นเกมมาถึงว่าสวอนซีได้ลุ้นกันพอสมควรได้โอกาสลุ้นจากจังหวะบุกสองหนแล้วได้จบสองทีติด หนแรกจากจังหวะโต้กลับขึ้นมาแล้วจบด้วยการวอลเลย์ของเราท์เลดจ์แต่แฉลบออกหลัง ตามมาด้วยบอลขึ้นหน้าถึงเราท์เลดจ์พักอกก่อนแทงทะลุช่องให้มิชูหลุดไปยิงยังเจอเช็คเซฟออกไปก่อน
เด กุซมันเติมมายิงติดบล็อก
หลังผ่านไป 15 นาทีเกมของ"หงส์ขาว"ดูเด่นกว่าพอสมควรมีจังหวะต่อบอลมาถึงหน้าเขตโทษแล้วได้ลุ้นตลอดคราวนี้เปลี่ยนมาเป็นบอลโยนไปให้มิชูวิ่งไปโขกชงกลับมาให้กับเด กุซมันที่เติมขึ้นมาจับบอลก่อนแล้วซัดแต่ติดบล็อก
อาซาร์ได้ยิงก็ยังไม่ผ่าน
มาถึงคิวเชลซีลองลุ้นประตูกันบ้างจากลูกเตะมุมเปิดยาวไปเสาไกลให้กับเคฮิลล์โขกแต่โดนตัวคุมเสาโหม่งทิ้งออกมา เข้าทางอาซาร์ตามมาเก็บก่อนได้ยิงแต่ก็ยังเบาเข้ามือเทรมเมลไม่มีปัญหา
รามิเรซควักไรเฟิลส่องไกลก็โดนเซฟ
ช่วงนี้ได้ผลัดกันครองบอลพอกันแล้วและ"สิงห์บลูส์"มาได้ลุ้นอีกทีจากการจ่ายเข้ากลางไปให้กับรามิเรสมีโอกาสว่างๆเลยลองส่องไกลดูบอลพุ่งแรงเรียดแต่ก็เทรมเมลก็ยังไหวล้มตัวเซฟเอาไว้ได้
ได้ลุ้น!ออสการ์เกือบได้ยิงจ่อๆ
โอกาสของเชลซีมาอีกแล้วในนาที 31 จากบอลโด่งเข้าเขตโทษ มาต้าพยายามจะวอลเลย์เข้ามาไปแฉลบบาเข้าทางอาร์ซาก่อนแปะให้กับออสการ์ตรงกรอบ 6 หลาแตะทีแรกได้ช่องจะยิงแล้วแต่เจอแนวรับเจ้าบ้านมาช่วยกันสกัดออกไปก่อน
ช่วงนี้สิงห์บุกทดสอบเกมรับหงส์ขาว
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกแล้วทาง"สิงห์บลูส์"ได้ครองบอลเยอะกว่าแล้วแต่ทำได้แค่ไปป้วนเปี้ยนถึงแถวเขตโทษของสวอนซีเท่านั้นเองเจอเกมรับของเจ้าบ้านที่ช่วยกันไล่วิ่งดักจังหวะได้ดีเลย
บาได้ยิงส่งท้ายครึ่งแรกแต่กดไม่ลง
ก่อนจบโอกาสของเชลซีมาอีกซักทีจากโคลได้เปิดเข้าไปในเขตโทษแล้วแนวรับสวอนซีเข้าสกัดกันสองคนแต่บอลมันดันไปเข้าทางบาพลิกตัวมายิงแต่ก็กดไม่ลงบอลเลยหลุดกรอบออกไป ทำให้จบครึ่งแรกที่เสมอ 0-0
ครึ่งหลัง
บาได้ยิงยังหลุดไปนิดเดียว
กลับมาเริ่มครึ่งหลังโอกาสได้ลุ้นเป็นของเชลซีก่อนเลยเกือบได้ประตูออกนำซะแล้วจากการยิงระยะ 20 หลาโดยบา แต่น่าเสียดายบอลมันไปโค้งหลุดเสาออกหลังไปแบบน่าหวาดเสียว
มาต้าได้วอลเลย์ก็ยังติดบล็อก
ถึงนาที 58 เชลซียังหาโอกาสจบจังๆอีกไม่ค่อยจะได้เลยเต็มที่ก็คือจังหวะทำเกมขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจบด้วยการวอลเลย์ของมาต้าในเขตโทษติดบล็อก ก่อนตามด้วยรามิเรสยิงก็ยังไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่
สิงห์ยังไม่หยุดแต่เจาะยากเหลือหลาย
"สิงห์บลูส์"ยังคงทำเกมบุกต่อไปอาศัยความจี๊ดของอาร์ซากับมาต้าเข้าว่า แต่ต้องชมแนวรับของเจ้าบ้านที่ยังเหนียวแน่นอยู่เหมือนเดิมหลังผ่านมาครึ่งชั่วโมง สุดท้ายราฟาเริ่มขยับให้ลูอิซลงมาแทนอิวาโนวิช
มาต้าสับไกอีกแล้วยังไม่ผ่านเทรมเมล
เริ่มจะเข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วเชลซียังหาจังหวะเจาะไปเรื่อยคราวนี้เป็นมาต้าอีกครั้งเริ่มต้นด้วยฝากบอลไปให้กับบาหน้าเขตโทษยืนพิงก่อนคืนมาให้มาต้าวิ่งมาสับไกทันที เทรมเมลล้มตัวเซฟไว้ได้มีกระฉอกนิดแต่ยังตะครุบไว้ได้อยู่
อั้นไม่ไหว!อาร์ซาหลุดเตะเด็กเก็บบอลเจอแดง
มีจังหวะปัญหาสำหรับอาร์ซาซะแล้วในนาที 80 หลังมีปัญหากับเด็กเก็บบอลโดยเด็กเก็บบอลตามไปเก็บแล้วมาทำยึกยักคืนช้านอนกอดบอลไว้ อาร์ซาพยายามเอาคืนสุดท้ายท่าจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ไปเตะเข้าที่สีข้างไปที แม้เด็กจะกวนแต่อาร์ซาก็ฟิวส์ขาดเกินไป สุดท้ายเจอใบแดงไล่ออกจากสนาม ส่วนราฟาก็เลือกถอดออสการ์ออกก่อนให้ตอร์เรสลงมาบู้ช่วงท้ายเกม
หงส์ขาวได้ที!บุกมาเกือบฝัง
เกือบมีโอกาสฝังของสวอนซีเลยจากจังหวะบอลไปให้กับซอง ยงพาบอลขึ้นมาก่อนจะฝากไปให้มิชูทำชิ่งคืนมาตามด้วยการดีดออกไปทางซ้ายให้กับลามาห์ตัดเข้าในมาซัดในเขตโทษแต่ก็ยังไม่ผ่านเซฟของเช็คอยู่
เช็คเซฟช่วย!ดายเออร์หลุดมายิงโดนปัดทิ้ง
เข้าช่วงทดเจ็บ 6 นาทีหลังก่อนหน้านี้มีปฐมพยาบาลเอร์นานเดซไปครู่นึง ทางสวอนซีเกือบได้ฝังเลยจากจังหวะสวนขึ้นมาซอง ยงจ่ายออกไปทางขวาให้ดายเออร์เติมขึ้นมายิงไกลหน้าเขตโทษเจอเช็คบินเซฟเอาไว้ได้
สุดท้ายเชลซีก็เสมอกับสวอนซีไป 0-0 ทำให้ประตูรวมกลายเป็น"หงส์ขาว"ที่ตบเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศลีก คัพเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขาโดยจะไปเจอกับแบรดฟอร์ดที่ปราบแอสตัน วิลล่าเข้ามาในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
สวอนซี ซิตี้ : เกร์ฮาร์ด เทรมเมล 7.0, ชิโก้ ฟลอเรส 7.0, แอชลี่ย์ วิลเลียมส์ 8.0*, อังเคล รานเคล 7.0, เบน เดวิส 6.0, ลีออน บริตตัน 6.0, คี ซอง ยง 7.0, โจนาธาน เด กุซมัน 7.0, ปาโบล เอร์นานเดซ 5.5, เวย์น เราท์เลดจ์ 7.0 (ดายเออร์ น.65 6.0), มิชู 7.0
สำรองไม่ได้ลงสนาม : มิเชล ฟอร์ม, แกร์รี่ มังค์, ดไวท์ เทียนเดลลี่, แดนนี่ แกรห์ม, โรลันด์ ลามาห์, อิเตย์ เชชเตอร์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค 6.0, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 5.5 (ลูอิซ น.68 5.5), แอชลี่ย์ โคล 6.0 (เบอร์ทรานด์ น.86 -), แกรี่ เคฮิลล์ 6.0, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า 4.5, รามิเรส 5.5, แฟรงค์ แลมพาร์ด 5.0, ฆวน มาต้า 7.0, ออสการ์ 5.0 (ตอร์เรส น.81 -), เอด็อง อาซาร์ 5.0, เด็มบ้า บา 7.0
สำรองไม่ได้ลงสนาม : รอส เทิร์นบูลล์, เปาโล แฟร์เรร่า, จอห์น เทอร์รี่, มาร์โก้ มาริน