ซันเดอร์แลนด์   | ข้อมูลทีม |   | นักเตะ |   | ตารางการแข่งขัน |   | ข่าว |   | ไฮไลท์ |  

ซันเดอร์แลนด์ ข้อมูลทีม ซันเดอร์แลนด์ ฉายา ซันเดอร์แลนด์ ประวัติ ซันเดอร์แลนด์

   ข้อมูล ประวัติ สโมสร ทีม ฉายาซันเดอร์แลนด์ ซันเดอร์แลนด์


ซันเดอร์แลนด์

ชื่อเต็ม : Sunderland Football Club
ฉายา : The Black Cats ( แมวดำ )
ก่อตั้ง : ค.ศ. 1879
สนาม : สเตเดียม ออฟ ไลท์ ( ความจุ 49,000 คน )
ที่ตั้ง : เมืองไทน์
ประธานสโมสร : ไนออล ควินน์
ผู้จัดการทีม : สตีฟ บรูซ

สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์ มีสนามเหย้าชื่อสเตเดียมออฟไลท์ ตั้งอยู่ในเมืองซันเดอร์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นทีมที่เล่นในพรีเมียร์ลีก
เริ่มใช้งานสนามสเตเดียมออฟไลท์ตั้งแต่ปี 1997 หลังจากใช้งานสนาม Roker Park มากกว่า 99 ปี ซันเดอร์แลนด์เคยเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 6 ครั้ง ในปี 1892, 1893, 1895, 1902, 1913 และ 1936 เข้าร่วมกับลีกอังกฤษตั้งแต่ปี 1890 โดยซันเดอร์แลนด์เล่นอยู่ในลีกสูงสุดเรื่อยมาจนถึงปี 1958 เคยชนะเลิศเอฟเอคัพ 2 ครั้ง ในปี 1937 ชนะ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ 3-1 และในปี 1973 ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0
ฤดูกาล 2006-2007 ชนะเลิศฟุตบอลลีกแชมเปียนชิพ ทำให้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลปัจจุบัน (2007-2008) มีประธานสโมสรคือไนออล ควินน์ และมี รอย คีน เป็นผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน


ประวัติสโมสร

สโมสรซันเดอร์แลนด์ (Sunderland A.F.C.) ก่อตั้งขึ้นในปี 1879 ภายใต้ชื่อเดิม Sunderland & District Teachers Association และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Sunderland Association Football Club และได้เริ่มรับนักเตะเข้ามาร่วมทีมและเข้าร่วมฟุตบอลลีกอาชีพในปี 1890

ในช่วงแรกระหว่างปี 1886-1898 ซันเดอร์แลนด์ได้ใช้สนาม Newcastle Road ร่วมกับสโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นคู่แข่งสำคัญ ต่อมาในปี 1898 ซันเดอร์แลนด์ได้ย้ายมาใช้สนามโรเกอร์พาร์ค เป็นสนามเหย้าแห่งใหม่

ปี 1913 ซันเดอร์แลนด์พ่ายให้กับทีมแอสตันวิลลา ในเกมนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง ทีมซันเดอร์แลนด์ก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนในปี 1958 ทีมซันเดอร์แลนด์ตกชั้นไปเล่นลีกดิวิชั่น 1 เป็นครั้งแรก

จนถึงปี 1987 ซันเดอร์แลนด์ทำผลงานได้ย่ำแย่ทำให้ตกลงไปเล่นในระดับดิวิชั้น 3 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ต่อมาภายใต้การทำทีมของ Dennis Smith ทำให้ซันเดอร์แลนด์มีผลงานที่ดีขึ้นและเป็นแชมป์ในปี 1988 และหลังจากนั้น 2 ปีสามารถทำผลงานได้ถึงรอบเพลย์ออฟ (playoff) แต่ต้องพ่ายให้กับสวินดอน หลังจากพ่ายแพ้ทำให้ยังคงต้องเล่นอยู่ในระดับดิวิชั้น 2 ในฤดูกาล 1991-1992 ทีมสามารถเข้าใกล้พื้นที่เพลย์ออฟแต่ทำไม่สำเร็จ ได้เพียงเข้าชิงเอฟเอคัพ และพ่ายให้กับลิเวอร์พูลในที่สุด

Dennis Smith ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมโดยมี Malcolm Crosby ทำหน้าที่แทน(เพียงหนึ่งปี) และ เทอร์รี่ บุทเชอร์ ก็เข้ามาเป็นผู้จัดการในระยะสั้น และได้เปลี่ยนเป็น Mick Buxton

ในปี 1995 ซันเดอร์แลนด์ก็ได้ใช้บริการผู้จัดการทีมคนใหม่ ปีเตอร์ รีด เพียงแค่ฤดูการแรก ปีเตอร์ รีด ก็สร้างความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการพาทีมขึ้นสู่ระดับพรีเมียร์ลีก หลังจากต้องพยายามอยู่กว่า 5 ปี แต่เนื่องจากทำผลงานได้ไม่ดีนักทำให้ต้องกลับไปเล่นในระดับดิวิชั่น 1 เมื่อจบฤดูกาล และในปีเดียวกันนั้น ทีมซันเดอร์แลนด์ต้องย้ายจากสนาม Roker Park ที่เคยใช้งานมากว่า 99 ปี มายังสนามแห่งใหม่ที่มีความจุมากที่สุดแห่งหนึ่งในรอบ 70 ปีของสนามกีฬาในอังกฤษ ด้วยจำนวนที่นั่งผู้ชม 42,000 คน และได้ขยายมาเป็น 49,000 คน

ซันเดอร์แลนด์กลับสู่ระดับพรีเมียร์ชิพอีกครั้งในปี 2000-2001 ด้วยฤดูกาลที่ไม่ยากเย็นนัก ปี 1998-1999 ทำคะแนนได้สูงถึง 105 คะแนน ในอีก 2 ปีต่อมา 2001-2002 ซันเดอร์แลนด์ทำผลงานได้ดีอยู่อันดับ 7 ในระดับพรีเมียร์ลีก แต่ทว่ายังพลาดโอกาสที่จะไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรป ในปีต่อมา 2002-2003 ผลงานกลับทำผลงานได้ย่ำแย่อีกครั้ง เมื่อชนะเพียง 4 เกม ยิงได้ 21 ประตู เก็บได้แค่ 19 คะแนนเท่านั้น เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ซันเดอร์แลนด์ตกอยู่ในภาวะหนี้สินท้วมสโมสร มากกว่า 20 ล้านปอนด์ ทำให้จำเป็นต้องขายนักเตะที่ดีที่สุดไปเพื่อพยุงสถานการณ์ของสโมสร

ในฤดูกาล 2004-2005 ซันเดอร์แลนด์จบอย่างสวยหรู โดยการทำทีมของ มิค แมคคาร์ธธี โดยเป็นแชมป์ของลีก Coca-Cola Championship และได้กับมาเล่นในระดับพรีเมียร์ชิพอีกครั้ง (ครั้งที่ 3 ในรอบ 10 ปี) อย่างไรก็ตามหลังจากจบซีซัน 2005-2006 ซันเดอร์แลนด์เก็บได้เพียง 15 คะแนน เป็นประวัติการได้คะแนนน้อยที่สุดของสโมสร ทำให้ แมคคาร์ธธี ต้องออกจากการเป็นผู้จัดการทีมในช่วงกลางฤดูกาล โดยมีรักษาการผู้จัดการทีมคือ Kevin Ball

หลังจากนั้นความหวังของทีมซันเดอร์แลนด์ก็กลับมาอีกครั้งในปี 2006 ด้วยการเข้าซื้อกิจการของไนออล ควินน์ อดีตนักเตะของซันเดอร์แลนด์ ร่วมกับ Irish Drumaville Consortium ทำการซื้อหุ้นจากประธานสโมสรคนก่อน Bob Murray และการเข้ามาคุมทีมของรอย คีน อดีตกัปตันแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นอดีตทีมชาติไอร์แลนด์เหมือนประธานสโมสร

หลังจากการเข้ามาของประธานสโมสร และผู้จัดการทีมคนใหม่ ซันเดอร์แลนด์สร้างสถิติไม่แพ้ใคร 17 นัดติดต่อกันในฤดูกาล 2006-2007 ในช่วงต้นปี 2007 เก็บคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำ ขยับจากตำแหน่งบ๊วยของตารางขึ้นมาเป็นจ่าฝูง และทำให้ซันเดอร์แลนด์เลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกในฐานะ ทีมชนะเลิศ พร้อมกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้(อันดับ 2) และทีมดาร์บีเคาน์ตี (เพลย์ออฟ)

ในนัดเปิดสนามฤดูกาล 2007-2008 ซันเดอร์แลนด์ชนะทอตแนมฮ็อตสเปอร์ ด้วยสกอร์ 1-0 โดยการทำประตูของ ไมเคิล โชปราในช่วงทดเวลาเจ็บ และนัดที่สองเสมอกับทีมน้องใหม่เหมือนกันคือ Birmingham City 2-2 โดย ไมเคิล โชปรา และ สเติร์น จอห์น ช่วยกันทำประตู

ในฤดูกาล2008/2009 ซันเดอร์แลนด์ เล่นนัดเปิดสนาม แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 หลังจากนั้นไม่กี่เดือน รอย คีน ก็ลาออกจากตำแหน่ง เพราะผลงานทีมย่ำแย่และเป็นริคกี้ สบราเกีย ผู้ช่วยเขาเข้ามาคุมทีมชั่วคราวแต่เพียงสองนัดผลงานทีมดูดีขึ้นด้วยการถล่มเวสบรอมวิชและฮัลส์ ซิตี้ทำให้ได้คุมทีมถาวรพอหลังจากนั้นผลงานทีมก็แย่ลง ทั้งที่มีนักเตะอย่าง ฌิบริล ซิสเซ่ อดีตหัวหอกลิเวอร์พูล เคนวิน โจนส์ หัวหอกดาวซัลโวปีที่แล้ว รวมถึง คีแรน ริชาร์ดสันด้วย จนเมื่อจบฤดูกาลด้วยอันดับ16 ริคกี้ สบารเกีย ก็ออกจากตำแหน่งโดยคนที่มาแทนที่คือ สตีฟ บรูซ และ ได้ดึงนักเตะอย่าง ดาร์เรน เบนท์,เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ หัวหอกดาวรุ่งจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง เปาโล ดาซิลวา ปราการหลังทีมชาติอุรุกวัย การเสริมทัพนับว่าน่าสนใจและน่าจะทำให้ทีมมีอนาคตที่ดีขึ้น และในช่วงต้นฤดูกาลในเกมส์พบลิเวอร์พูลเกิดเหตุการ์ณที่สร้างความฮือฮาไปทั่ววงการเมื่อดาร์เรน เบนท์ กองหน้าซันเดอร์แลนด์ยิงไปโดนลูกบอลชายหาดที่แฟนเชียร์ขว้างลงมาในสนามทำให้บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไปโดยเกมส์นี้ซันเดอร์แลนด์ชนะไป1-0และยังสามารถเอาชนะอาร์เซนอลด้วยสกอร์1-0ก่อนที่ช่วงท้ายฤดูกาลซันเดอร์แลนด์ฟอร์มตกจนหมดโอกาสที่จะลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป


Credit : th.wikipedia.org
 


ซันเดอร์แลนด์ ข้อมูลทีม ซันเดอร์แลนด์ ฉายา ซันเดอร์แลนด์ ประวัติ ซันเดอร์แลนด์