ศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก คู่ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม เวลา 19.00 น. ที่สนามทะเลหลวง “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี จะต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของรองจ่าฝูง “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
เริ่มเกมไปเพียงแค่สี่นาที ทีมเยือนมีโอกาสได้ลุ้นประตูก่อนจังหวะยิงไกลของวานเดอร์ หลุยส์ แต่ไม่ตรงกรอบเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 12 จังหวะสวนกลับของสุโขทัย เนลสัน โนบีญ่า เก็บบอลหนึ่งจังหวะและหลุดเดี่ยวไป ก่อนจะเลือกยิงหลบไมเคิล เข้าไปเสาไกลเป็นประตูขึ้นนำเจ้าถิ่น 1-0
นาที 29 จากการพลาดของแข้งเจ้าถิ่น และเป็นเอกชัย ไปฉกบอลลากมาก่อนเลือกยิงหวังเบียดเสาแรกเข้าไป ทว่าไม่กรอบออกหลังไปแบบน่าลุ้น
ค้างคาวไฟเกือบได้ประตูที่สองนาทีที่ 40 บาจโจกระดกบอลข้ามไมเคิลไปปากประตูให้กับเอ็นจีว่าได้หวด สุดท้ายเป็นเอเวอร์ตันที่เคลียร์บอลทิ้งออกไปแบบหวุดหวิด
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก แข้งเทพมาทำสำเร็จ มิก้าเปิดบอลผ่านมาให้ร็อบสันพลิกตัวยิงแสกหน้ากิตติคุณเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนจะจบครึ่งแรกสกอร์นี้
กลับมาเกมครึ่งหลังแค่สามนาที มานูเอล โหม่งไม่เคลียร์ เข้าทางนรงฤทธิ์ พักบอลด้วยอกหนึ่งจังหวะ และหวดยิง แต่ยังไม่ผ่านมาไมเคิลเข้าไป
แต่แล้วนาที 53 แบงค็อกได้ลูกเตะมุม วานเดอร์ หลุยส์ เปิดเข้ามาก่อนที่เอเวอร์ตัน จะโหม่งจ่อๆเข้าไปเป็นประตูพลิกขึ้นนำของทีมเยือน 2-1
นาที 56 เลอสันต์ ครอสบอลมาให้เอ็นจีวา หลุดเดี่ยวยิงเสียบใต้คานเข้าไป แต่ไลน์แมนดันยกธงล้ำหน้าไปก่อนหน้านี้
นาที 80 เจ้าบ้านเจองานหนักเหลือผู้เล่น 10 คน นวพล มาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงพ่ายไป
ก่อนที่แบงค็อกจะได้อีก 2 ประตูปิดกล่องจาก มิก้า เทคตัวโหม่ง และ ธีรเทพ ที่หลุดเข้าไปยิงช่วงทดเจ็บ
ทรู แบงค็อก เอาชนะ ไป 4-1 และเป็นการหยุดสถิติเจ้าถิ่นแพ้ในรังเหย้า11 นัด หลังแพ้นัดล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้วเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 ให้กับแบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์เดียวกันนี้ 4-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สุโขทัย เอฟซี : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ (GK),ศักดรินทร์ มิ่งสมร, นวพล ตันตระเสนีย์, นรงฤทธิ์ บุญสุข, ปิยะราษฏร์ ลาจังหรีด, จุง เมียง โฮ, เลอสันต์ เทียมราช (ภีมวิทธิ์ ทองนิธิโรจน์ น.76), ก้องนธีชัย บุญมา, เอ็นจีวา, เนลสัน โนบีญา, จอห์น บาจโจ้
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (GK),มิก้า ชูนวลศรี, มานูเอล ทอม เบียรห์, เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส, พุทธินันท์ วรรณศรี, แอนโทนี อำไพพิทักษ์วงศ์,สรรวัชญ์ เดชมิตร,สุมัญญา ปุริสาย, เอกชัย สำเร (สถาพร แดงสี น.67), วานเดอร์ หลุยส์ (คาร์ลอส ซาลอม น.90), ร็อบสัน แฟร์นานเดส (ธีรเทพ วิโนทัย น.81)