ตามคาด!!!“กิเลน” 1-0 แชมป์ไทยพเรีมยร์ลีก
“กิเลนผยอง”แอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดเถลิงคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกตามความคาดหมายโดยเกมฉลองแชมป์ในบ้านนัดสุดท้ายชนะชัยนาท 1-0 จากประตูชัยของ“มุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดาพร้อมทุบสถิตกระจุยกระจายแถมพิชิตพงษ์เป็นนักเตะคนที่สองต่อจากรังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชคที่ได้แชมป์ลีกเยอะที่สุด 5 สมัย
ไทยพรีเมียร์ลีก 2012
วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555
สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1 : 0 ชัยนาท
ประตู : 1-0 ธีรศิลป์ แดงดา นาที 40
“กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดจ่าฝูงของตารางขาดเพียงมงคล นามนวดกับพิชิตพงษ์ เฉยฉิวที่ติดโทษแบน นอกนั้นมาเต็มยกชุดนำโดยดัสกร ทองเหลา,ดานโญ่ เซียก้า,มาริโอ ยูรอฟสกี้,ธีรศิลป์ แดงดา
“นกใหญ่”ชัยนาทอันดับ 16 ยังคงไม่มีไกรเกียรติ เบียดตะคุที่ยังไม่หมดกรรมเพราะติดโทษแบนเป็นเกมสุดท้ายขณะที่ณรงค์ชัย วชิรบาลบาดเจ็บ แต่ที่เหลือเป็นชุดใหญ่เหมือนกัน อาทิสุมัญญา ปุริสาย,เคนดอล จักดีโอซิงห์,ไมเคิ่ล โทมัส เบิร์น
เจ้าบ้านขอเพียงแต้มเดียวจะเถลิงแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการและคงจะยิ่งใหญ่มากหากเกมนี้ฉลองแชมป์ด้วยชัยชนะ ทว่าทีมเยือนต้องการหนีตายดังนั้นจึงไม่มีอะไรง่ายในสนามรบ(ฟุตบอล)!!!
ทั้งนี้ก่อนเกมเอสซีจี เมืองทองฯเปิดตัวนักเตะตัวใหม่ “เจ้าบี้”ชัยณรงค์ ทาทองที่ย้ายมาจากบีบีซียูหลังหมดสัญญาเมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยจะลงเล่นให้“กิเลน”ได้ในฤดูกาลหน้า
นอกจากนั้นมีรายงานว่าบัตรเข้าชมในเกมนี้ถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วเนื่องจากแฟนบอลเจ้าบ้านต้องการมาฉลองแชมป์ที่คาดว่าไม่น่าพลาดกับ 1 แต้มที่ต้องการ ขณะเดียวกันเป็นนัดสุดท้ายในบ้านของเอสซีจี เมืองทองฯในฤดูกาลนี้ด้วย ทำให้ประธานสโมสรระวิ โหลทองสั่งติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ยักษ์หน้าสนามและมีสปอร์นเซอร์มาเปิดซุ้มอาหารให้แฟนบอลได้รับประทานอย่างอิ่มหนำสำราญ
ครึ่งแรก
18วิฯ“สุมัญญา”ลองของ“กวิน”
เล่นมาได้ 18 วินาที งานเลี้ยงเกือบล้มเมื่อชัยนาทได้โอกาสทักทายก่อนเมื่อกวิน ธรรมสัจจานันท์ออกมาตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ บอลไปเข้าทางปืนสุมัญญา ปุริสายพักอกก่อนฉวยโอกาสยิงไกลในจังหวะที่กวินวิ่งกลับไปเฝ้าเส้นประตู แต่ลูกยิงของสุมัญญาบอลแรงเกินไปทำให้ลึกออกหลังแบบได้เสียว
เหลือเชื่อ!“มุ้ย”ทำหมูหก
2 นาทีถัดมาเจ้าถิ่นตอบโต้และน่าได้ประตูสุดๆเมื่อยูรอฟสกี้ตวัดบอลจากกราบซ้ายไปเสาสองให้ดานโญ่ เซียก้าโหม่งตั้งมาให้“มุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดายิงระยะ 7 หลาหน้าประตูข้ามคานเหลือเชื่อ เรียกได้ว่าประตูนี้ให้รณฤทธิ์ ซื่อวาจามายิงยังเข้าประตู
สู้สนุกแต่จังหวะสุดท้ายไม่คม
เมืองทองฯพยายามเปิดเกมบุกแต่ชัยนาทสู้ได้ไม่เป็นรอง กระทั่งนาที 13 ชัยนาททำเกมบุกขึ้นมาได้และจบจากการยิงไกลของสิงขร มังคุดแต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว
เกมผ่านมาครึ่งทางของครึ่งแรกชัยนาทกลับเล่นได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยเจ้าถิ่นไม่มีโอกาสแม้แต่ง้างเท้ายิงประตู ขณะที่ชัยนาทได้พาบอลเข้าเขตโทษหลายครึ่งแต่จังหวะเข้าทำไม่เฉียบคมพอ
มาตามนัด!“มุ้ย”โขกงามหยด 1-0
เมืองทองฯเริ่มเอาบอลกลับมาครองได้มากกว่าและนาที 40 แฟนบอล“กิเลน”ได้แหกปากเฮกันลั่นสนามเมื่อปิยพล บรรเทาครอสบอลจากกราบขวาแบบแบ็คแฮมแม่นเหมือนจับวางมาให้“มุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดาโขกตัดหน้าลี ดอง วอนบริเวณจุดโทษเสียบเสาไกลเข้าประตูอย่างสวยงาม สุดปัญญาที่เฉลิมเกียรติจะพุ่งเซฟได้ทัน ใส่สกอร์ให้เอสซีจี เมืองทองฯนำ 1-0 ก่อนจบ 45 นาทีแรกที่สกอร์นี้
ครึ่งหลัง
เมืองทองดุ!จัดหนักสองดอกแต่ไม่เข้า
ครึ่งหลังเล่นมาได้ 3 นาทีฉากหนังเก่าเกือบฉายซ้ำเมื่อปิยพล บรรเทาครอสบอลจากกราบขวาหนนี้ลึกไปเสาสองและเป็นธีรศิลป์ที่ได้โหม่งเต็มศรีษะทว่าหลุดเสาสองออกหลังแบบได้ลุ้น
ไม่ถึงนาทีถัดมายูรอฟสกี้เดาะบอล 2-3 ทีก่อนสับไกยิงในเขตโทษบอลพุ่งเข้าหากรอบแต่ตรงตัวเฉลิมเกียรติตะปบบอลรับไว้ได้
“จักรพันธ์”ได้ซัดติดบล็อค
จากนั้นทั้งสองทีมยังคงเปิดแลกกันอย่างดุเดือดโดยเจ้าบ้านครองบอลและเซ็ทบอลไปมาก่อนที่นาที 58 จักรพันธ์ พรใสจะได้บอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาและตัดสินใจยิงทว่าถูกสุรเชษฐ์ งามทิพย์วิ่งมาบล็อคไว้ได้เส้นยาแดงผ่าแปด
“แรนเกล”โขกเบาเป็นปุยนุ่น
นาที 68 วีระวุฒิ กาเหย็มหยอดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปเสาสองให้เปาโล แรนเกลโหม่งแต่เบาเกินไป เข้ามือเฉลิมเกียรติโดยที่ยูรอฟสกี้ส่ายหน้าด้วยความเซ็งเพราะรอยิงแต่แรนเกลกลับไม่โหม่งตั้งมาให้ซะงั้น
เมืองทองฯทำได้!เก็บชัย 1-0
ท้ายเกมเมืองทองฯดีกว่าและนาที 83 เกือบได้ประตูตอกฝาโลงจากวีระวุฒิที่เปิดจากฝั่งซ้ายไปเสาสองให้เปาโล แรนเกลโหม่งแต่กะบอลผิดจังหวะเพราะเฉลิมเกียรติออกมาชกบอลวืดพอดี กลายเป็นว่าบอลโดนหน้าแรนเกลก่อนหลุดเสาแค่คืบ
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมเปิดเกมรุกและมีโอกาสได้ประตูทั้งคู่แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ จบเกมเมืองทองฯชนะ 1-0 ทำให้ชัยนาทต้องหนีตายต่อไป
“กิเลน”ซิวแชมป์สมัย 3 ทุบสถิติกระจุย
ชัยชนะของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดส่งผลให้มีเพิ่มเป็น 77 คะแนนทำให้คว้าแชมป์เป็นที่แน่นอนเนื่องจากชลบุรีอันดับ 2 มีเพียง 63 แต้มหากชนะรวดในอีก 4 นัดที่เหลือจะมีเพียง 75 คะแนนเท่านั้น โดยเอสซีจี เมืองทองฯคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 3 ในรอบ 4 ปี มากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไทยที่คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2539 โดยก่อนหน้านี้ทหารอากาศ,บีอีซี เทโรศาสน และ ธ.กรุงไทย เคยทำได้ทีมละ 2 สมัย
นอกจากนั้นยังเป็นสถิติใหม่ของสโมสรและประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่“กิเลน”ทำแต้มได้สูงถึง 77 คะแนน และหลังจากนี้ทุกแต้มจะเป็นสถิติที่ถูกบันทึกว่าเยอะที่สุด ขณะเดียวกันเอสซีจี เมืองทองฯยังมีลุ้นสร้างสถิติคว้าแชมป์โดยไม่แพ้ให้กับทีมใดหากโปรแกรม 3 นัดสุดท้ายกับบีบีซียู,การท่าเรือไทยและบีอีซี เทโรศาสนสามารถทำแต้มได้ในทุกเกม
“แป๊ะ”โคตรแชมป์ลีกเทียบเท่า“รังสรรค์”
ขณะที่“เจ้าแป๊ะ”พิชิตพงษ์ เฉยฉิวเพลเมกเกอร์ตัวเก่งที่แม้ว่าจะไม่ได้ลงสนามในเกมนี้เพราะติดโทษแบนแต่เจ้าตัวถูกจดบันทึกเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังไทย 5 สมัย เทียบเท่า“เจ้าอ้น”รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชคดาวเตะบีอีซี เทโรศาสนที่ได้แชมป์ลีก 5 สมัยเช่นกัน
โดยก่อนหน้านี้พิชิตพงษ์เคยเป็นแชมป์ไทยลีกกับ ธ.กรุงไทย 2 สมัย(2545-2546 กับ 2546-2547) และมาคว้าแชมป์ไทยลีกกับเมืองทองฯอีก 3 สมัย (2552,2553 และปัจจุบัน2555)รวมเป็น 5 สมัย ขณะที่“เจ้าอ้น”รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชคได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 5 สมัยกับบีอีซี เทโรศาสน 1 สมัย(2543),ธ.กรุงไทย 2 สมัย(2545-2546,2546-2547)และบุรีรัมย์ 1 สมัย(2551)
ด้าน“เจ้าใหม่”ภานุพงษ์ วงษ์ศาตามมาติดๆที่ 4 สมัยหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้แชมป์กับการไฟฟ้าฯ(บุรีรัมย์ในปัจจุบัน) 1 สมัย(2551) และเมืองทองฯ 3 สมัย(2552,2553 และปัจจุบัน2555)รวมเป็น 4 สมัย ขณะที่คนอื่นๆอาทิดัสกร ทองเหลา,ธีรศิลป์ แดงดา,กวิน ธรรมสัจจานันท์,ดานโญ เซียกาได้คนละ 3 สมัยโดยเฉพาะ 3 คนหลังได้แชมป์กับเมืองทองฯทั้งหมด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด: กวิน ธรรมสัจจานันท์,ปิยพล บรรเทา,ภานุพงษ์ วงศ์ษา,รี ควาง ชอน,วีรวุฒิ กาเหย็ม,ดัสกร ทองเหลา(สารัช อยู่เย็น),ดานโญ่ เซียก้า,อัตนัน บาราคัต(เปาโล แรนเกล),จักรพันธ์ พรใส(ศราวุฒิ มาสุข),มาริโอ ยูรอฟสกี้,ธีรศิลป์ แดงดา
ชัยนาท : เฉลิมเกียรติ สมบัติปัน,ปริญญา อู่ตะเภา,ลี ดอง วอน,มาดูโร่ สวา มอยเซ่,สุรเชษฐ์ งามทิพย์,สิงขร มังคุด(คัพฟ้า บุญมาตุ่น),รัชพล นาวันโน,ไมเคิ่ล โทมัส เบิร์น(เดยัน วูคาดิโนวิช),สุมัญญา ปุริสาย,แคนเดล จักดีโอซิงห์,ภูวดล สุวรรณชาติ