หม่อมกัดไม่ต้อง!หริดแฮตทริกหงส์รัวแซงฟูแล่ม 3-1
ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์อาจทำให้แฟน"หงส์แดง"ลืมหลุยส์ ซัวเรซไปเลยเมื่อจัดการเหมาคนเดียว 3 ประตูรวดพาลิเวอร์พูลยิงแซงฟูแล่มที่ได้ลูกโขกของเบอร์บาตอฟพาทีมขึ้นนำก่อนแต่สุดท้ายก็ต้องมาแพ้ 3-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2556
ฟูแล่ม 1-3 ลิเวอร์พูล
สนาม : คราเวน ค็อตเทจ
ประตู : 1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น. 33, 1-1 ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น. 36, 1-2 ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น. 62, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น. 86
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก ฟูแล่ม 1-3 ลิเวอร์พูล
ฟูแล่มฟอร์มห่วยที่สุดแพ้ 5 นัดจาก 6 เกมที่ผ่านมาแถมยังเป็นการแพ้ 4 เกมรวดล่าสุดด้วยแต่พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเพราะไม่มีลุ้นหนีตกชั้นจากผลบุญที่ทำเอาไว้ช่วงต้นฤดูกาล
ด้าน"หงส์แดง"ฟอร์มก็ไม่ค่อยดีเหมือนกันชนะแค่นัดเดียวจาก 5 เกมหลังสุดส่วนที่เหลือเป็นการเสมอถึง 4 นัดแถมยังยิงไม่ได้อีก 3 เกมด้วย
เกมนี้ลิเวอร์พูลไม่มีแอ็กเกอร์, เจอร์ราร์ดและซัวเรซรวมถึงสเคอร์เทลที่มีอาการป่วยทำให้ร็อดเจอร์สตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้หลัง 3 คนนำโดยคาร์ราเกอร์, วิสดอมและโคอาเตซ
กองกลางมีลูคัสนำทัพเคียงข้างเฮนเดอร์สันและมีเชลวี่ย์ลงมาเปิดเกมรุกซึ่งคูตินโญ่กับดาวนิ่งและจอห์นสันคอยเดินเกมบริเวณริมเส้นแล้วให้สเตอร์ริดจ์เป็นหน้าเป้าคนเดียว
ครึ่งแรก
ไอ้จ้อนช้าเกินยิงเลยโดนบล็อค
นาทีที่ 5 "หงส์แดง"เดินเกมขึ้นมาสวยจากดาวนิ่งไปเชลวี่ย์แล้วมาถึงคูตินโญ่ริมเส้นด้านซ้ายก่อนที่สตาร์บราซิเลี่ยนจะแทงกลับไปให้เชลวี่ย์ในกรอบเขตโทษแต่ดาวเตะหัวโล้นทำช้าไปล็อคก่อนหนึ่งจังหวะทำให้ลูกยิงไปโดนบล็อคกองหลังฟูแล่ม
จอห์นสันเปิดเกือบมุดใต้คาน
"หงส์แดง"ยังเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่องและเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเดินเกมทางกราบขวาจอห์นสันเติมขึ้นมาก่อนเปิดเข้าไปหน้าปากประตูแต่บอลย้อยเกือบมุดเข้าใต้คานทำให้ชวาร์เซอร์ต้องปัดออกมาจังหวะตามซ้ำมีดาวนิ่งแต่กองหลังเจ้าบ้านก็ยิงมาบล็อคเอาไว้
คูตินโญ่อัดเปรี้ยงเต็มตีนเลย
ลิเวอร์พูลยังบุกอย่างเมามัส์และคราวนี้เป็นคูตินโญ่ที่ลากบอลมาจากกลางสนามก่อนเข้าระยะทำการได้ยิงทันทีด้วยเท้าขวาระยะ 25 หลาแต่บอลยังไปตรงตัวของชวาร์เซอร์ที่ทุบออกมา
เสียดายไหม...หริดหลุดยิงผ่านหน้าประตู
นาทีที่ 26 คาร์ราเกอร์จ่ายบอลทะลุช่องไปให้สเตอร์ริดจ์ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายโดยไม่มีธงล้ำหน้าแต่จังหวะยิงดาวเตะทีมชาติอังกฤษกลับใจร้อนซัลโวไม่ตรงกรอบแถมบอลจะออกข้างเอา
ผ่านครึ่งชั่วโมงฟูแล่มเพิ่งจะยิง
โอกาสครั้งแรกของเจ้าบ้านมาในนาทีที่ 31 เมื่อพวกเขาได้ฟรีคิกก่อนโดนเคลียร์ออกมาบอลกระดอนไปถึงเอโนห์ลองส่องไกลกว่า 30 หลาแต่บอลไปเข้าซองของเรน่า
เบิร์บโขกเหน่งๆหงส์โดนก่อน
เพียงการยิงครั้งที่สองก็ส่งฟูแล่มขึ้นนำเลยจากจังหวะที่ดัฟฟ์ขึ้นเกมมาริมเส้นด้านขวาก่อนที่จะส่งให้รีเธอร์บรรจงเปิดมาตรงกลางประตูข้ามหัวคาร์ราเกอร์มาตกใส่เบอร์บาตอฟที่โขกคนเดียวโล่งๆไม่มีพลาดเป็นประตูที่ 14 ของเขา
เต็มตีน!หริดมาคนเดียวซัดอย่างงาม
จังหวะสวนกลับของ"หงส์แดง"ได้ประตูแบบสุดเหลือเชื่อเมื่อวิสดอมสาดบอลมาจากแดนหลังให้สเตอร์ริดจ์กระดกบอลหลบก่อนหนึ่งจังหวะในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนล็อคหนีฮิวจ์สอีกทีแล้วยิงด้วยขวาเต็มตีนเตี่ยสุดปัญญาที่ชวาร์เซอร์จะเซฟไว้ได้
ครึ่งหลัง
จีเจเข้าหนักโดนเหลืองคนแรก
นาทีที่ 50 จอห์นสันโดนใบเหลืองคนแรกของเกมจังหวะที่พยายามพุ่งเปิดปุ่มเข้าเสียบบอลจากเอโนห์แบบน่าเกลียดทำให้โดนผู่เล่นเจ้าถิ่นเข้ามาต่อว่าแล้วก็โดนจดชื่อไปตามระเบียบ
คาคานิคลิชซัดออกหลัง
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีคาคานิคลิชลากบอลขึ้นมาจากกลางสนามก่อนมาถึงหน้าปากเขตโทษแต่โดนกองหลังของลิเวอร์พูลรายล้อมไปหมดทำให้เจ้าตัวตัดสินใจยิงย้อนศรไปที่เสาไกลซึ่งบอลมันเลยออกหลังไป
คูตินโญ่อัดโดนบล็อค
ลิเวอร์พูลได้จังหวะโต้กลับอีกแล้วเมื่อคูตินโญ่ลากบอลขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงทันทีแต่ไปติดบล็อคของฮันเดลันด์บอลลอยโด่งเชลวี่ย์พยายามตามมาโขกซ้ายแต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ
ฟูแล่มอดโทษ....ลูคัสแฮนด์บอลคาตา
ผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง"หงส์แดง"รอดการเสียจุดโทษเฉยเลยจากจังหวะที่รุยซ์ลากบอลหลบโคอาเตสไปแล้วก่อนที่จะเปิดบอลไปโดนมือของลูคัสเต็มๆแต่มาร์ค ฮัลซี่ย์โบกมือให้เล่นต่อเสียอย่างนั้นท่ามกลางเสียโห่ของแฟนเจ้าบ้าน
หริดเบิ้ล!หลุดยิงหมูไม่หก
"หงส์แดง"โชคดีมาได้ประตูที่สองเฉยเลยในจังหวะที่คูตินโญ่ลากบอลมายิงแต่ดันลื่นล้มบอลเลยมาถึงสเตอร์ริดจ์ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนบรรจงแปผ่านมือของชวาร์เซอร์เข้าไป
หลังจากนั้นอีกแป๊ปเดียว"หริด"ไปแย่งบอลจากฮันเดลันด์มาได้ในกรอบเขตโทษก่อนหลุดไปดวลเดี่ยวกับชวาร์เซอร์แต่คราวนี้นายด่านออสซี่ไม่ยอมให้บอลผ่านมือเขาไป
ไม่จ่าย!หริดกะยิงเองอดลูกสาม
สเตอร์ริดจ์เกือบทำแฮตทริกได้โดยเขาเลี้ยงเดี่ยวขึ้นมาจากกลางสนามเข้าถึงกรอบเขตโทษด้านขวาแต่เจ้าตัวเลือกยิงเองไปติดมือของชวาร์เซอร์ทั้งที่มีเพื่อนรอตรงเสาสองถึง 2 คนซึ่งถ้าผ่านไปให้ได้ยิงโล่งๆแน่นอน
ไอ้จ้อนลื่นไม่งั้นมีเฮ
โอกาสทองของ"หงส์แดง"มีอย่างต่อเนื่องและพวกเขาก็พลาดอีกครั้งคราวนี้เป็นเชลวี่ย์ที่พักบอลลงคนเดียวในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่จังหวะยิงดันไปสะดุดทำให้เสียหลักเลยยิงอีกทีบอลไม่ตรงกรอบ
เรน่าโชว์สองซูเปอร์เซฟ
นาทีที่ 75 เฮนเดอร์สันเกือบทำเรื่องเมื่อจ่ายบอลพลาดไปเข้าเท้าของเบอร์บาตอฟเลี้ยงหลอกล่อก่อนส่องไปที่เสาแรกแต่เรน่ายังบินปัดไว้ได้
จากลูกเตะมุมเป็นฮิวจ์สขึ้นโขกเต็มหัวบอลจะผ่านเข้าไปตุงตาข่ายอยู่แล้วแต่เป็นเรน่าคนเดิมที่โชว์ซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้อีกครั้ง
ไม่คมกันเอง!หงส์โอกาสเพียบยังยิงเพิ่มไม่ได้
ฟาบิโอ บอรินี่ที่เพิ่งลงสนามมาโชว์พิษสงบ้างเมื่อลากบอลตัดมาจากริมเส้นด้านซ้ายก่อนที่จะพยายามยิงไกลไปที่เสาสองแต่บอลพุ่งแรงไปโดนเสาอย่างจังทำให้ยังไม่ได้ประตูอีก
นาทีถัดมา"หงส์แดง"ก็ยังไม่ได้ลูกที่ 3 เมื่อพวกเขาทำชิ่งกันในกรอบเขตโทษของฟูแล่มก่อนที่สเตอร์ริดจ์จะไขว้ไปให้บอรินี่จะหลุดเข้าไปยิงโล่งๆแต่ก็ไม่ผ่านมือของชวาร์เซอร์เหมือนเดิม
รีเซ่อัดฟรีคิกเข้าซองเรน่า
นาทีที่ 83 รีเซ่ที่เพิ่งลงมาได้ลองส่องฟรีคิกระยะ 25 หลาโดยเขาวิ่งมากดด้วยซ้ายเต็มแรงแต่เรน่าก็ยังไม่พลาดล้มไปรับเข้าซองได้หนึบ
เอาจนได้!หริดกดแฮตทริก
ถัดมาอีก 2 นาทีสเตอร์ริดจ์ก็มาทำแฮตทริกจนได้จากจังหวะที่คูตินโญ่จ่ายบอลยาวจากแดนตัวเองไปให้"หริด"หลุดไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนกระดกบอลหนีตัวของชวาร์เซอร์บอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม
สุดท้าย"หงส์แดง"คว้า 3 คะแนนเต็มพร้อมส่งให้ฟูแล่มเก็บได้คะแนนเดียวจาก 7 เกมหลังสุดมี 40 คะแนนต้องมาลุ้นตกชั้นเสียด้วยซ้ำเพราะห่างจากวีแกนที่เหลือเล่นอีก 2 เกมเพียง 5 แต้ม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ 6, เบรเด้ ฮันเดลันด์ 4, คีแกรน ริชาร์ดสัน 3 (อูร์บี้ เอ็มมานูเอลสัน 3 น. 15), อาร่อน ฮิวจ์ส 5, ชาช่า รีเธอร์ 7, จอร์จอส คารากูนิส 4 (ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ น. 83), ดาเมี่ยน ดัฟฟ์ 3, อเล็กซานเดอร์ คาคานิคลิช 6 (มลาเดน เพทริช 4 น. 71), เอยองก์ เอโนห์ 5, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 4 , ไบรอัน รุยซ์ 6
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : นีล เอเธอริดจ์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, เอ็มมานูเอล ฟริมปง, ฮูโก้ โรดาเยก้า
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า 6, เซบาสเตียน โคอาเตส 3, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 5, อันเดร วิสดอม 4 (โฆเซ่ เอ็นริเก้ 5 น. 46), เกล็น จอห์นสัน 6 , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 4, ลูคัส เลว่า 4, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง 6, จอนโจ้ เชลวี่ย์ 3 (ฟาบิโอ บอรินี่ 6 น. 77), ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 7, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 8
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด โจนส์, คอเนอร์ โคอาดี้, ลอยด์ โจนส์, อุสซามะ อัสไซดี้, ซูโซ่