เซนเตอร์พาเฮ!สิงห์บุกเผาเรือนเจ้าสัว 3-0 ขึ้นที่ 3
คู่เซนเตอร์แบ็คเชลซีโชว์ฟอร์มเฉิดฉาดในเกมนี้เมื่อดาวิด ลูอิซฉลองการเล่นนัดที่ 100 ด้วยลูกยิงไกลสุดตีนบวกกับการโหม่งสองตุงของจอห์น เทอร์รี่ให้ทีมบุกมายัดเยียดความบรรลัยให้ฟูแล่มถึงบ้าน 3-0 พร้อมขยับแซงอาร์เซน่อลขึ้นไปอยู่ที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันพุธที่ 17 เมษายน 2556
ฟูแล่ม 0 : 3 เชลซี
สนาม : คราเวน ค็อตเทจ
ประตู : 0-1 ดาวิด ลูอิซ น.29, 0-2 จอห์น เทอร์รี่ น.43, 0-3 จอห์น เทอร์รี่ น.72
ฟูแล่มชนะเชลซีแค่หนเดียวในปี 2006 จาก 32 ครั้งที่เจอกันตลอด 33 ปีที่ผ่านมา แต่การพบกันใน 4 หนหลังของคู่นี้จบลงด้วยผลเสมอ
"เจ้าสัวน้อย"มีปัญหาในการจัดทัพเมื่อไม่สามารถใช้บริการของดาเมี่ยน ดัฟฟ์ที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่สตีฟ ซิดเวลล์ก็ยังติดโทษแบน แต่ยังมีดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเป็นตัวความหวังในการล่าจาข่ายภายใต้การบงการเกมแดนกลางของจอร์จอส คารากูนิส
"สิงห์บลูส์"ปรับหมากจากเกมแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ด้วยการถอดเซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้าออกไปเป็นสำรอง แล้วให้บรานิสลาฟ อิวาโนวิชดูแลแบ็คขวา มีจอห์น เทอร์รี่ลงคุมแนวรับ ขณะที่แฟรงค์ แลมพาร์ดลงเล่นนัดที่ 600 เพื่อคอยบัญชาเกมให้เฟร์นานโด ตอร์เรสพังประตู
ครึ่งแรก
รูอิซชาร์จ 6 หลาข้ามคาน
เปิดฉากมาได้ 3 นาทีฟูแลมได้โอกาสทักทายก่อนในจังหวะที่รีเธอร์เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าไปที่เสาไกลให้รูอิซปรี่ตัดหน้าเทอร์รี่พุ่งเข้าชาร์จที่ระยะ 6 หลาข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
แลมพ์วอลเล่ย์ไม่ผ่านมือโกล
ถึงนาที 8 เป็นโอกาสเข้าทำของเชลซีบ้างเมื่อฮันเกลันด์เคลียร์บอลทิ้งไปได้ไม่ไกลเลยโดนตอร์เรสวิ่งไปหาบอลแล้วโหม่งชงไปให้แลมพาร์ดได้วอลเล่ย์เล่นเอาชวาร์เซอร์ต้องรับสองครั้งถึงอยู่
อิวารับใบเหลืองคนแรก
อิวาโนวิชกลายเป็นผุ้เล่นคนแรกของเกมนี้ที่โดนใบเหลืองจากไมค์ ดีนหลังไปสไลด์สองเท้ายันใส่ข้อเท้าของเปทริชที่มุมธงด้านซ้าย ก่อนที่คารากูนิสปั่นฟรีคิกมุมแคบไปเข้ามือเช็กในนาที 18
คารากูนิสลากเข้าในตะบันข้ามคาน
ต้องบอกว่า"เจ้าสัวน้อย"มีเกมการเล่นที่สู้ผู้มาเยือนได้เมื่อนาที 24 เบอร์บาตอฟจ่ายบอลออกด้านซ้ายให้คารากูนิสลากหนีอิวาโนวิชตัดเข้าในมาตะบันที่หน้าเขตโทษข้ามคานไปหน่อยนึง
ลูอิซส่องไกลสุดตีนเป็นประตู
แต่แล้วนาที 29 เชลซีก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในจังหวะที่อาซาร์ไหลบอลมาให้ลูอิซซึ่งเติมขึ้นไปช่วยแนวรุกได้จับแล้วตะบันไกลจากระยะ 30 หลาบอลพุ่งแหวกอากาศเข้าตุงตาข่าย
เช็กโชว์เซฟปัดลูกยิงหักข้อเออร์บี้
หลังจากนั้นฟูแล่มพยายามโหมเกมลุยเข้าใส่ทีมเยือนโดยนาที 35 เอ็มมานูเอลสันลากบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายตัดเข้าในมาถึงบริเวณหัวกระโหลกแล้วยิงหักข้อไปที่โคนเสาแรกโดยเช็กปัดทิ้ง
เทอร์รี่โถมเข้าโหม่งลูกสอง
ท้ายครึ่งแรกแลมพาร์ดได้ยิงฟรีคิกระยะ 35 หลาไปโดนชวาร์เซอร์ปัดออกหลัง แต่ไม่กี่อึดใจให้หลังมาต้าก็เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาไกลให้เทอร์รี่โหม่งเบียดเสาให้เชลซีบุกมานำฟูแล่ม 2-0
ครึ่งหลัง
มาต้ากุมขมับชาร์จช้าไม่ถึงบอล
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ถึงนาที 58 แลมพาร์ดจ่ายบอลจากหน้าเขตโทษออกด้านขวาให้ตอร์เรสกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่เสาไกลแต่น่าเสียดายที่มาต้าชาร์จไม่ถึงบอล"สิงห์บลูส์"เลยอดได้อีกประตู
แฟนสิงห์คึกร้องเพลงสบายใจ
ดูเหมือนว่าแฟนบอลเชลซีจะมีความสุขที่ได้ชมเกมนี้มากเมื่อพวกเขาพร้อมใจกันตะโกนว่า"วี อาร์ เดอะ แชมเปี้ยนส์, แชมเปี้ยนส์ ออฟ ยุโรป"แบบไม่หยุดพักกันนานหลายนาทีเลยทีเดียว
เปทริชทำชิ่งก่อนยิงหลุดเสา
ถึงนาที 64 เปทริชลากบอลมาหน้ากรอบเขตโทษแล้วทำชิ่งกับเบอร์บาตอฟก่อนวางเท้าตะบันหลุดเสาขวาออกไป หลังจากนั้น"เจ้าสัวน้อย"ทำการเปลี่ยนตัวส่งโรดาเยก้ามาเล่นแทนรีเซ่
เปทริชเงิบสกัดลูกโขกเพื่อน
ฟูแล่มมีโอกาสกลับเข้าสู่เกมเมื่อเซนเดรอสโขกลูกเตะมุมกดลงพื้นไปที่เสาขวาแต่มันถูกเคลียร์ออกจากเส้นด้วยฝีเท้าของเปทริชที่พยายามมีชื่อเป็นผู้ทำประตูแต่กลายเป็นส่งบอลขึ้นฟ้าแทน
โมเซสปั่นบอลสวยแต่โดนปัดได้
หลังจากนั้นในนาที 70 มาต้าไหลบอลหน้ากรอบเขตโทษไปทางฝั่งซ้ายให้โมเซสรับแล้วล็อคตัดเข้าในมาปั่นบอลโค้งด้วยเท้าขวาไปที่เสาไกลเจอชวาร์เซอร์อ่านทางออกพุ่งปัดทิ้งออกหลังได้ทัน
ตอร์เรสโขกชงให้เทอร์รี่จบ
อย่างไรก็ดีในอีกสองนาทถัดมาเชลซีมาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายซึ่งบอลถูกเปิดมาที่เสาแรกเข้าหัวตอร์เรสโขกสะบัดไปที่เสาไกลให้เทอร์รี่ทะยานเข้าโหม่งเผาขนไม่เหลือซากให้ทีมนำ 3-0
จบเกมสิงห์ทะยานขึ้นที่ 3
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเชลซีบุกมาต้อนเอาชนะฟูแล่ม 3-0 ขยับตัวเองขึ้นไปอยู่ที่ 3 ของตารางแทนที่อาร์เซน่อล โดยมี 7 คะแนนห่างจากรองจ่าฝูงแมนฯซิตี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟูแล่ม : มาร์ก ชวาร์เซอร์ 6.5, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ 7 (ฮูโก้ โรดาเยก้า น.66, 7), ฟิลิปป์ เซนเดรอส 5.5 , เบรเด้ ฮันเกลันด์ 7, ซาช่า รีเธอร์ 7.5, เออร์บี้ เอ็มมานูเอลสัน 6, จอร์จอส คารากูนิส 7 (เอ็มมานูเอล ฟริมปง น.76, N/A), เอยอง เอโนห์ 7, ไบรอัน รูอิซ 6.5 , มลาเดน เปทริช 6 (เคริม ฟราย น.81, N/A), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6.5
สำรองไม่ได้ใช้ : นีล เอเธอริดจ์, อารอน ฮิวจ์ส, สตานิสลาฟ มาโนเลฟ, คีแรน ริชาร์ดสัน
เทรนเนอร์ : มาร์ติน โยล 6.5
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค 7.5, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 7 , ดาวิด ลูอิซ 8* , จอห์น เทอร์รี่ 7.5 , ไรอัน เบอร์ทรานด์ 7, รามิเรส (จอห์น โอบี มิเกล น.75, N/A), แฟรงค์ แลมพาร์ด 6.5, ฆวน มาต้า 7 (เดมบา บา น.80, N/A), วิคเตอร์ โมเซส 6, เอด็อง อาซาร์ 6 (ออสการ์ น.68, 7) , เฟร์นานโด ตอร์เรส 6.5
สำรองไม่ได้ใช้ : รอสส์ เทิร์นบูลล์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ยอสซี่ เบนายูน, นาธาน เอเก้
เทรนเนอร์ : ราฟาเอล เบนิเตซ 7