ห้างยาคืนฟอร์ม!อัดชาลเก้ 10 ตัวสบาย 2-0
"ห้างยา"ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นคืนฟอร์มเก่งเปิดบ้านเล่นเกมสวนกลับเร็วใส่"ราชันสีน้ำเงิน"ชาลเก้ก่อนได้ประตูจากการยิงไกลของอันเดร ชูร์เล่ช่วงปลายครึ่งแรกและสตเฟาน คิสลิ่งในครึ่งหลังเป็นลูกตอกฝาโลงทำให้คว้าเพิ่มอีก 3 แต้มขยับเข้าไปใกล้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์อันดับ 4 เหลือแต้มเดียวเท่านั้น
บุนเดสลีก้า เยอรมัน
วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-0 ชาลเก้ 04
สนาม : ไบ อารีน่า
ประตู : 1-0 อันเดร ชูร์เล่ น. 45, 2-0 สเตฟาน คิสลิ่ง น. 67
ครึ่งแรก
เริ่มเกมขึ้นมาเพียง 2 นาทีเจ้าถิ่นมีโอกาสได้ลุ้นประตูก่อนเลยในจังหวะที่อันเดร ชูร์เล่เปิดบอลเข้ามาตรงกลางประตูให้สเตฟาน คิสลิ่งได้โขกเต็มหัวแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
"ห้างยา"ยังเดินเกมรุกต่อเนื่องนาทีที่ 9 ไซม่อน โรเฟสได้ยิงด้วยซ้ายบริเวณหัวกะโหลกเต็มแรงแต่เบเนดิค โฮเวเดสยังล้มตัวบล็อคเอาไว้ได้
แม้ชาลเก้จะเป็นฝ่ายครองบอลเอาไว้ได้มากกว่าในช่วง 20 นาทีแรกแต่เลเวอร์คูเซ่นกลับหาโอกาสส่องประตูได้มากครั้งกว่าโดยพวกเขามีโอกาสได้ยิงจังๆจากกอนซาโล่ คาสโตรในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่บอลยังไปติดบล็อคของเจอร์เมน โจนส์ออกหลังไปในนาทีที่ 21
จากลูกเตะมุมคาสโตรเปิดเข้ามาบริเวณกลางปากประตูให้ฟิลิปป์ วอลล์ไชด์ที่ขึ้นมารอโขกได้โหม่งแต่บอลออกทางเสาด้านขวามือไปอย่างน่าเสียดาย
มาถึงนาทีที่ 27 ชาลเก้มีโอกาสยิงเป็นครั้งแรกของเกมจากจูเลี่ยน เดร็กซ์เตอร์รับบอลมาจากเจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟานก่อนกระหน่ำด้วยขวาแต่บอลไปติดเซฟของเลโน่
ได้ยิงมาตั้งเยอะจนแล้วจนรอด"ห้างยา"ก็ได้ประตูนำจนได้ในจังหวะที่ได้บอลโต้กลับเร็วไซม่อน โรลเฟสจ่ายไปให้ชูร์เล่ตรงกลางสนามซึ่งเขาไม่คิดมากกระหน่ำด้วยเท้าขวาจากระยะกว่า 35 หลาบอลพุ่งเข้าไปตรงสามเหลี่ยมด้านซ้ายสุดงามในนาทีที่ 45
ครึ่งหลัง
ครึ่งหลังเปิดเกมขึ้นมา"ราชันสีน้ำเงิน"ยังเป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่เหมือนเดิมและมีจังหวะยิงครั้งแรกจากเจอร์เมน โจนส์ที่ซัดเต็มข้อจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลพุ่งไปกลางประตูทำให้เลโน่ยังเซฟเอาไว้ได้ในนาทีที่ 59
มาถึงนาทีที่ 60 เลเวอร์คูเซ่นมีโอกาสบ้างจากการทำเกมของสตเฟาน คิสลิ่งที่โหม่งบอลต่อมาจากลูกฟรีคิกให้กอนซาโล่ คาสโตรยิงด้วยซ้ายตรงบริเวณจุดโทษแต่บอลก็ยังหลุดเสาซ้ายมือออกไป
ยิ่งเล่นยิ่งเหมือนได้ใจสำหรับเจ้าถิ่นที่ตอนนี้รอโต้กลับเพียงอย่างเดียวและก็เป็นผลขึ้นนำ 2-0 จนได้ในจังหวะที่คีสลิ่งได้โอกาสสับไกระยะไม่ถึง 7 หลาด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเข้าไปโคนเสาด้านขวามือสุดปัญญาที่ลาร์ส อันเนอร์สตอลล์จะปัดป้องเอาไว้
ยังคงเป็น"ห้างยา"ที่หาจังหวะยิงได้เยอะเหลือเกินในจังหวะโต้กลับซึ่งหากพวกเขาคมกว่านี้คงได้ประตูทิ้งห่างไปอีกโดยในนาทีที่ 72 คิสลิ่งผ่านบอลให้โรเฟสได้ยิงด้วยซ้ายระยะประมาณ 12 หลาแต่อันเนอร์สตอลล์ก็ยังเหนียวพุ่งไปปัดเอาไว้ได้
มาถึงนาทีที่ 80 เลเวอร์คูเซ่นมาได้ลูกที่จุดโทษเมื่อโรมัน นอยสแตดเตอร์ไปทำฟาวล์ชูร์เล่ในกรอบเขตโทษแต่คิสลิ่งที่รับหน้าที่สังหารกลับยิงไปติดเซฟของอันเดอร์สตลอลล์ตรงกลางประตู
เกมแทบจะจบทันทีแล้วในนาทีที่ 82 เมื่อปาปาโดปูลอสไปตัดฟาวล์ใส่ชูร์เล่ทำให้เขาได้ใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงต้องออกไปอาบน้ำก่อนเพื่อนก่อนที่จะจบเกมด้วยชัยชนะของ"ห้างยา"ในท้ายที่สุด
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
: ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แบร์นด เลโน่, ฟิลปป์ วอลล์ไชด์, ฮาจิเมะ โฮโซไก, ดาเนี่ยล คาร์วายัล, โอแมร์ โทปรัค, สเตฟาน ไรนาร์ทซ์ , ไซม่อน โรลเฟส, ลาร์ส เบนเดอร์ (เยนส์ เฮเกเลอร์ น. 78), อันเดร ชูร์เล่ (โดมินิค คอห์ร น.90), สเตฟาน คิสลิ่ง , กอนซาโล่ คาสโตร (เรนาโต้ ออกุสโต้ น. 88)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : มิชาเอล เรนซิ่ง, มานูเอล ฟรีดิช, เซบาสเตียน โบนิช, จูเนียร์ เฟอร์นานเดซ
: ชาลเก้ 04 ลาร์ส อันเนอร์สตอลล์, เบเนดิค โฮเวเดส, ไคเรียคอส ปาปาโดปูลอส , คริสเตียน ฟัชส์, โจเอล มาทิป, เจอร์เมน โจนส์ (คริสตอฟ โมริตซ์ น. 75), เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน (ซิเปรียน มาริก้า น. 69), จูเลี่ยน เดร็กซ์เลอร์, โรมัน นอยสแตดเตอร์, ลูวิส โฮลท์บี้ (ทรานควิลโล่ เบอร์เน็ตต้า น. 60), คลาส-แยน ฮุนเตลาร์
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ทิโม ฮิลเดบรันด์, ซาเอ็ด โคลาซินาช, ชิเนดู โอบาซี่, ทีมู ปุ๊กกี้