สังเวยเพียบ!ฟิออฯเจ็บ2แดง1เจอยิงนาทีท้ายเจ๊าชาวเกาะ 1-1
สามแต้มลอยหน้าไปต่อหน้าสำหรับฟิออเรนติน่าที่ได้บาเลโร่โขกประตูนำก่อนเจอปินิญ่าเป็นฮีโร่ให้กาญารี่ตีเสมอในนาที 89 สำเร็จ 1-1 และ"ม่วงมหากาฬ"ยังต้องเสียนักเตะถึงสามรายทั้งกวาดราโด้และโกเมซที่พากับเจ็บ บวกหนึ่งใบแดงของปิซซาร์โร่ช่วงท้ายอีกด้วย
ฟุตบอลเซเรีย อา
สนาม : อาร์เตมิโอ ฟรังคี่
วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2556
ฟิออเรนติน่า 1:1 กาญารี่
ประตู : 1-0 บาเลโร่ น.70, 1-1 ปินิญ่า น.89
คลิปไฮไลท์ กัลโช่ เซเรีย อา ฟิออเรนติน่า 1-1 กายารี่
ครึ่งแรก
เกมเริ่มต้นมา 10 นาทีแรกดูไม่ค่อยมีอะไรกันเท่าไหร่แม้ฟิออเรนติน่าจะได้ครองบอลบุกเข้าใส่มากกว่าแต่ว่าโอกาสจบเน้นๆให้ได้หวาดเสียวยังไม่มาถึงซักที
ยังหาโอกาสจบไม่ได้มากเท่าไหร่นักโดยฟิออเรนติน่ามาได้ลุ้นเอาที่บาเรโล่จะพาบอลเข้าเขตโทษแต่เลือกจ่ายไปตรงกลางที่รอสซี่ ตามด้วยลูกไขว้ปล่อยให้อควิลานี่เติมขึ้นมารับช่วงต่อสุดท้ายสับไกจากหน้าเขตโทษหลุดกรอบไปเอง
ผ่านไปแล้วอีก 28 นาทียังไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าเดิมรูปเกมยังเช่นเคยที่"ม่วงมหากาฬ"เคยครองบอลเยอะกว่าเคาะบอลไปมาแต่แนวรุกยังเชื่อมกันไม่ติดจ่ายกันขาดๆเกินๆไปซะเยอะ แล้วต้องมาเปลี่ยนตัวไวเลยกวาดราโด้เจ็บไหล่เล่นต่อไม่ไหวต้องให้ฆัวกินลงสนามมาเล่นแทน
ช็อตนี้ของฟิออลุ้นขึ้นมาอีกนิดจากบอลของอควิลานี่แทงเข้าเขตโทษให้บาเลโร่โฉบมารับบอลพยายามให้เข้าขวาแล้วยิงยังติดบล็อก บอลกระดอนออกมาถึงโกเมซจับจังหวะแรกไม่ดีหน่อยเลยต้องวิ่งตามไปเอี้ยวตัวยิงสุดท้ายติดบล็อกเหมือนเดิม
ตอนนี้เป็นฝั่งของฟิออได้บุกอย่างต่อเนื่องเลยแต่จังหวะได้ลุ้นนี่ยังห่างไกลจากกรอบประตูอยู่หนนี้ก็เช่นกันเป็นบอลเตะมุมโดนสกัดออกมาแล้วอัมโบรซินี่ตามมาโขกต่อให้รอสซี่ได้จับบอลแรกลงดีแล้วสับไกจากหน้าเขตโทษหลุดเป้าหมายพอสมควร
ท้ายครึ่งแรกนาที 42 กาญารี่มาลุ้นส่งท้ายทีจากบอลเตะมุมที่น่าได้ประตูเหลือเกินจากฝั่งขวาเปิดเข้ามาทางเสาแรกและคอนติเบียดมาโหม่งเช็ดไปเสาไกลให้อัสโตรี่สอดมาโขกซ้ำแต่น่าเสียดายโหม่งข้ามคานออกไปนิดเดียวทำเอาเจ้าตัวเซ็งถีบเสากันเลยทีเดียว สุดท้ายครึ่งแรกจบลงที่เสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง
ครึ่งหลังกลับมาลงสนามแล้วน่าจะมีประตูออกนำให้ฟิออฯจริงๆจากจังหวะที่จะฝากบอลมาให้รอสซี่หน้าเขตโทษพลิกก่อนบอลหลุดเข้าเขตโทษมากลายเป็นโอกาสงามให้โกเมซฉีกมาเล่นเลือกจะแตะหนีอากาซซี่แต่อากาซซี่ยังไม่เสียหลักวิ่งตามมาปิดมุมไว้บังคับให้โกเมซยิงหลุดกรอบไปเองก่อนจะมาปะทะกันจนสุดท้ายโกเมซเจ็บเข่าต้องโดนเปลี่ยนออกกลายเป็นเสียหายกับทีมแทน
นาที 59 โอกาสของ"ม่วงมหากาฬ"มาอีกครั้งกับจังหวะฟรีคิกที่ได้เยื้องมาทางขวานิดนึงก่อนรอสซี่มารับหน้าที่สังหารเองเลือกยิงต่ำๆกะให้เสียบโคนเสาไกลเข้าแต่อากาซซี่ยังไม่หลงกลับมาปัดออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด
เจ้าบ้านใจหายเกือบโดน"ชาวเกาะ"ยิงออกนำไปก่อนเฉยเลยจากบอลเตะมุมมาล้นออกทางซ้ายแล้วเปิดจ่ายย้ำเข้าเขตโทษมาอีกทีหนนี้จบลงด้วยวอลเล่ย์ของเนียงโกล็องยิงไม่เต็มเท้าเท่าไหร่แต่ทำเสียวได้บอลปลิ้นหลุดเสาไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
กาญารี่หวิดมอบโชคให้ฟิออฯเข้าซะแล้วในจังหวะที่เสียบอลหน้าเขตโทษตัวเองก่อนรอสซี่มาเก็บตกแล้วจ่ายออกทางซ้ายให้ปาสกวาลที่เติมขึ้นมาพยายามเปิดไปหน้าประตูแต่โรเซตตินี่แหย่ขาช่วยสกัดไว้สุดท้ายบอลมันลอยโด่งชนคานอย่างจังเลยรอดตัวไป
สุดท้ายนาที 71 "ชาวม่วง"มาทะยานออกนำได้เสียทีจากบอลทางซ้ายที่ปาสกวาลจ่ายกลับมาให้กับอัมโบรซินี่ขึยบมาทำชิ่งหลุดมาริมเขตโทษทางซ้ายแล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษ รอสซี่ก้มลงโหม่งแล้วไปแฉลบแนวรับกลายเป็นดีเข้าทางบาเลโร่ที่อยู่โล่งๆทางขวาวิ่งมาโขกซ้ำเผาขนไม่เหลือ ฟิออเรนติน่านำเรียบร้อย 1-0
เข้าท้ายเกมเหมือนจะนิ่งแล้วแต่สุดท้ายเจ้าบ้านถึงกับเซ็งเมื่อพวกเขาโดน"ชาวเกาะ"ตีเสมอหน้าตาเฉยจากบอลยกไต่เเสน้ข้างให้อิบาร์โบ้ตามไปเกี่ยวหนีบาเลโร่มาก่อนบรรจงเปิดเข้าเขตโทษและจบลงที่ปินิญ่าสอดมาโหม่งสะบัดชนเสาเข้าประตูไปได้ กาญารี่ตีเสมอในนาทีสุดท้าย 1-1
ทดเจ็บความหวังจะเอาชนะของฟิออเรนติน่าหายไปเลยหลังปิซาร์โร่ไปโดนใบแดงไล่ออกเพราะน่าจะไปต่อว่าผู้ตัดสินไม่ยอมเป่าจุดโทษให้ในจังหวะที่รอสซี่ปะทะกับตัวประกบล้มลงในเขตโทษแล้วไร้เสียงนกหวีด
จบเกมฟิออเรนติน่าทำได้เพียงแค่เก็บผลเสมอกับกาญารี่ไป 1-1 อดเก็บชัย 3 นัดรวดทำให้ตอนนี้มี 7 คะแนนอยู่ในอันดับ 4 เกาะกลุ่มอยู่กับยูเวนตุสและอินเตอร์ มิลานท่มีแต้มเท่ากัน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ฟิออเรนติน่า : เนโต้, กอนซาโล่ โรดริเกซ, ฟาคุนโด้ รอนคาญา, เนนาด โทโมวิช, อัลแบร์โต้ อควิลานี่, ฮวน ควาดราโด้ (ฆัวกิน น.29 (ปิซาร์โร่ น.70)), บอร์ฆ่า บาเรโล่, มัสซิโม่ อัมโบรซินี่, มานูเอล ปาสควาล, มาริโอ โกเมซ (ยาโกเวนโก้ น.51), จูเซปเป้ รอสซี่
กาญารี่ : มิคาเอล อากาซซี่, ดาวิเด้ อัสโตรี่, ลูก้า โรเซตตินี่, กาบริเอเล่ เปริโค่, นิโคล่า มูร์รู, รัดย่า เนียงโกล็อง, ดานิเอเล่ คอนติ, อันเดรีย คอสซู (ปินิญ่า น.65), ดานิเอเล่ เดสเซน่า (คาเบรร่า น.74), มาร์โก้ เซา (เอกดัล น.90), เซกุนโด้ อิบาร์โบ้