ผลบอล เอฟซี โคเปนเฮเก้น 0-2 เรอัล มาดริด ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 10 ธ.ค. 2013
ปิดฉากอย่างสง่า!โมดริช,โด้จิ๋วคนละตุง'ชุดขาว'ตบโคเปนนิ่มๆ 2-0
ปิดฉากเป็นแชมป์กลุ่มอย่างสวยงามสำหรับเรอัล มาดริดหลังได้ลูก้า โมดริชและคริสเตียโน่ โรนัลโด้ทำคนละประตูช่วยให้"ราชันชุดขาว"เอาชนะเอฟซี โคเปนเฮเก้นไปแบบสบายๆ 2-0
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี
สนาม : ปาร์คเก้น
วันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2556
เอฟซี โคเปนเฮเก้น 0:2 เรอัล มาดริด
ประตู : 0-1 โมดริช น.25, 0-2 โรนัลโด้ น.48
คลิปไฮไลท์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เอฟซี โคเปนเฮเก้น 0-2 เรอัล มาดริด
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดสุดท้ายที่สนามปาร์คเก้น เจ้าบ้านเอฟซี โคเปนเฮเก้นตกรอบแบบซวยเล็กๆ นัดนี้กุนซือสตาเล่ โซลบัคเค่นส่งชุดใหญ่ลงสนามหวังทิ้งทวนให้แฟนๆประทับใจ มีตัวเก๋าโอลอฟ เมลล์เบิร์กและลาร์ส ยาค็อบเซ่นคุมแนวรับ แดนกลางมีรูริค กิสลาสันเป็นตัวทะลุทะลวง แนวรุกมีนิโคไล ยอร์เกนเซ่นตัวแสบลงล่าตาข่าย ฝั่งทีมเยือนเรอัล มาดริดเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มแล้วแต่คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคางทูมยังส่งนักเตะชุดเกือบใหญ่ลงสนาม มีให้โอกาสนาโช่ในแนวรับ แดนกลางส่งลูก้า โมดริชช่วยงาน แต่แนวรุกยังมีคริสเตียโน่ โรนัลโด้กับแกเร็ธ เบล คู่หูมหาประลัยลงทะลวงแนวรับเจ้าบ้านเช่นเคย ผู้ตัดสินนัดนี้ได้แก่เฟลิกซ์ ไบรช์ ชาวเยอรมัน
ครึ่งแรก
โคเปนฯซวย..ตัวความหวังเจ็บ
เริ่มเกมแค่ 9 นาทีลางร้ายมาเยือนโคเปนเฮเก้นแล้ว นิโคไล ยอร์เกนเซ่น หัวหอกตัวเก่งได้รับบาดเจ็บต้องถูกเปลี่ยนตัวออกให้คริสเตียน โบลานอสลงสนามแทน
ทักทายคนละที
ทั้งสองฝ่ายเล่นกันค่อนข้างเร็วแต่ยังไม่มีโอกาสทำประตูจนนาที 13 โคเปนเฮเก้นได้ทักทายก่อน รูริค กิสลาสันกระชากหนีมาร์เซโล่ถึงสุดเส้นฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางถูกแนวรับมาดริดเคลียร์ออกมาเข้าทางแถวสองเจ้าบ้านโหม่งออกซ้ายให้ปิแอร์ เบงก์สันจับแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายข้ามคานไปไหนก็ไม่รู้ แต่นาที 15 มาดริดได้ลุ้นบ้าง อัลบาโร่ อาร์เบลัวลากบอลขึ้นทางฝั่งขวาก่อนหักเข้าซ้ายแล้วเปิดเข้ากลาง แกเร็ธ เบลโฉบตัดหน้าแนวรับเจ้าบ้านสะบัดโหม่งแต่มากไปหน่อย บอลหลุดเสาสองออกหลังไป
มันคือศิลปะ!โมดริชคล้องแล้วปั่นสุดคลาสสิคให้ชุดขาวออกนำ
มาดริดเริ่มกดดันได้มากกว่าและขึ้นนำจนได้ในนาที 25 จังหวะแรกคริสเตียโน่ โรนัลโด้ซัดฟรีคิกแฉลบออกหลังเป็นลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ลูกเปิดของซาบี อลอนโซ่ถูกแนวรับโคเปนเฮเก้นเคลียร์เข้าทางอิสโก้แปะให้ลูก้า โมดริชบริเวณ หัวกระโหลก มิดฟิลด์โครแอตซอยเท้างึกๆๆๆเหมือนจะยิงด้วยซ้ายก่อนคล้องบอลหลอกแนวรับไปอีกทางแล้วปั่นด้วยขวาโค้งเสียบเสาแรกตุงตาข่ายอย่างเหนือชั้น ทีมเยือนออกตัวก่อน 1-0
โด้จิ๋วโชว์คลาสสองครั้งซ้อน
นาที 32 มาดริดมีลุ้นนำห่าง อลอนโซ่จ่ายเข้ากลางให้เบลตอกส้นเร็วติดลาร์ส ยาค็อบเซ่น แต่บอลกระดอนเข้าทางโรนัลโด้วอลเลย์ด้วยซ้าย บอลติดท็อปสปินเหมือนลูกปิงปองเด้งพื้นจะเสียบเสาแรกแต่โยฮัน วีลันด์ยืนตำแหน่งดีปัดออกหลังไปได้ อีกจังหวะนาที 37 คาริม เบนเซม่าจ่ายจากซ้ายเข้ากลางให้โรนัลโด้เลี้ยงตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวากะเข้าเสาสองเน้นๆแต่วีลันด์ไวอีกพุ่งปัดออกหลังได้ทัน
พระเจ้าไม่ช่วยโว้ย..ท่านเปาไม่หลงเหลี่ยมเดลานีย์
เกือบเกิดหัตถ์พระเจ้าขึ้นในเกมนี้แต่ฟ้ามีตา นาที 39 ปิแอร์ เบงก์สันเปิดเตะมุมฝั่งขวาโค้งหาปากประตู โธมัส เดลานีย์โฉบเข้าโหม่งเช็ดตัดหน้าอิเคร์ กาซิยาสตุงตาข่าย หะแรกกรรมการเฟลิกซ์ ไบรช์เหมือนให้ประตูและนักเตะกับแฟนบอลโคเปนเฮเก้นเฮกันแล้ว แต่หลังปรึกษาผู้ตัดสินที่สี่ก็ตัดสินใจไม่ให้เป็นประตูท่ามกลางการประท้วงและเสียงโห่ แต่จากภาพช้าชัดเจนว่าเดลานีย์ใช้มือเปลี่ยนทางบอลอย่างแนบเนียนจึงถือว่าคำตัดสินถูกต้องแล้ว น่าจับไปออกรายการบันทึกกรรมจริงๆสำหรับมิดฟิลด์รายนี้
วีลันด์เหนื่อยต่อเนื่อง
มาดริดควบคุมเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบและได้โอกาสปิดท้ายครึ่งแรกนาที 44 อลอนโซ่ได้ซัดไกล บอลพุ่งเรียดมีลุ้นเป็นประตูแต่วีลันด์ล้มตัวรับไว้ได้อย่างสวยงาม
จบครึ่งแรกมาดริดนำ 1-0 แบบไม่ต้องออกแรงมากนักเพราะโมเมนตัมมาเองหลังขึ้นนำ ขณะที่โคเปนเฮเก้นต้องปรับเกมอย่างหนักในครึ่งหลังหากยังอยากไปเล่นยูโรปา ลีกให้ได้ในฤดูกาลนี้
ครึ่งหลัง
คนนี้ขาดไม่ได้!โด้จิ๋วปาดจ่อๆให้ชุดขาวนำห่าง
เริ่มครึ่งหลังถึงแค่นาที 48 มาดริดก็ได้ประตูเพิ่มในรูปแบบคล้ายๆลูกแรก คริสเตียโน่ โรนัลโด้รับบอลจากแดนกลางก่อนกระชากหนีลาร์ส ยาค็อบเซ่นหลุดเข้าเขตโทษแต่แบ็คจอมเก๋าตามมากดดันให้มุมแคบ จังหวะยิงเลยติดเซฟวีลันด์ออกหลังเป็นลูกเตะมุม แนวรับโคเปนเฮเก้นโหม่งเคลียร์เข้าทางมาร์เซโล่ครอสไปเสาไกลเน้นๆให้เปเป้โหม่งชงให้โรนัลโด้ปาดจ่อๆด้วยขวาตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 800 ในบอลยุโรปของมาดริดด้วย ทีมเยือนนำห่าง 2-0
ไข่โคเปนฯยังไม่แตก..กิสลาสันกดเฉียดเสา
นาที 53 โคเปนเฮเก้นมีลุ้นตีตื้นเหมือนกัน ยุสเซฟ ทูทูห์โยนข้ามฟากให้กิสลาสันที่ดูเป็นเรื่องเป็นราวสุดแล้วของเจ้าบ้านเลี้ยงหลบมาร์เซโล่ตามด้วยกระชากหนีนาโช่เข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วกดเต็มๆบอลพุ่งเฉียดเสาแรกออกหลังไป
โคเปนฯศูนย์นัดกันเบี้ยว
โคเปนเฮเก้นได้ลุ้นตีตื้นอีกสองครั้งแต่ก็ไม่เสียวซ่านนัก นาที 67 เบงก์สันได้ซัดฟรีคิกด้วยซ้ายสุดแรงแต่แรงเกิน บอลเหินข้ามคานไปไกล อีกจังหวะนาทีถัดมาจากลูกเตะมุมฝั่งขวาเปิดเข้าเขตโทษ บอลขลุกขลิกเด้งเข้าทางเดลานีย์กลับตัววอลเลย์ด้วยซ้ายแต่พระเจ้ายังไม่ยกโทษให้ บอลข้ามคานไปแบบไม่มีลุ้น
ชุดขาวผ่อนเกิ๊น..นาโช่บล็อคลูกยิงเหนื่อยอีก
เหมือนให้งานรุ่นน้องยังไงชอบกลสำหรับมาดริด นาที 72 อิกอร์ เวโตเคเล่ อีกหนึ่งผลผลิตชั้นดีจากเบลเยี่ยมรับบอลก่อนกระชากหนีแนวรับเข้าเขตโทษแล้วกดเต็มๆด้วยขวาแต่นาโช่ตามมาบล็อคลูกยิงออกหลังทันอย่างหวุดหวิด
โด้จิ๋วเกือบเบิ้ล
นาที 75 โรนัลโด้เกือบบวกเพิ่มให้ตัวเองและทีมได้ อังเคล ดิ มาเรีย ตัวสำรองจ่ายตัดเข้าเขตโทษให้โรนัลโด้ที่หันหลังให้ประตูโชว์สเต็ปแตะซ้ายหันขวาหลอกแนวรับโคเปนเฮเก้นจนหัวหมุนก่อนหวดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลโค้งหนีมือวีลันด์ชนเสาเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
เล่นมากเกิน..โด้จิ๋วพลาดโทษ
นาที 88 โรนัลโด้ชวดบวกสกอร์ให้ตัวเองอีกครั้งหลังเรียกจุดโทษได้จากจังหวะรับบอลจากเบนเซม่าแล้วกระชากเข้าเขตโทษก่อนเจอเดลานีย์สไลด์เกี่ยวขาจนร่วง สตาร์โปรตุกีสลุกขึ้นมาสังหารเองแบบไม่เน้นเลยทำให้วีลันด์ที่ล้มไปแล้วยืดแขนปัดบอลไว้ได้
จบเกมเป็นอันว่ามาดริดเอาชนะไป 2-0 ปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มอย่างสวยงาม ส่วนโคเปนเฮเก้นอดไปต่อในบอลยุโรปอย่างสุดช้ำ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เอฟซี โคเปนเฮเก้น( 4-4-2 ) : โยฮัน วีลันด์ 8 - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น 5, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก 6, รักนาร์ ซิเกิร์ดส์สัน 6, ปิแอร์ เบงก์สัน 6 - รูริค กิสลาสัน 7, โธมัส เดลานีย์ 5, เคลาเดเมียร์ 6, ยุสเซฟ ทูทูห์ 6( มาร์วิน พูรี่ - น.79 ) - นิโคไล ยอร์เกนเซ่น[ คริสเตียน โบลานอส 6 น.9( คริสตอฟเฟอร์ เรมเมอร์ - น.79 ) ], อิกอร์ เวโตเคเล่ 5
สำรองไม่ได้ลงสนาม : ยาค็อบ เยนเซ่น, คริส สตั๊ดส์การ์ด, โธมัส คริสเตนเซ่น, เซซาร์ ซานติน
เรอัล มาดริด( 4-3-3 ) : อิเคร์ กาซิยาส 6 - อัลบาโร่ อาร์เบลัว 6, นาโช่ 6, เปเป้ 6, มาร์เซโล่ 7 - อิสโก้ 6( อังเคล ดิ มาเรีย 6 น.67 ), ซาบี อลอนโซ่ 7( อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ - น.77 ), *ลูก้า โมดริช 8( คาเซมิโร่ - น.82 ) - แกเร็ธ เบล 5, คาริม เบนเซม่า 5, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
สำรองไม่ได้ลงสนาม : ดีเอโก้ โลเปซ, ดาเนียล การ์บาฆาล, เฆเซ่ โรดริเกซ, อัลบาโร่ โมราต้า
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี
สนาม : ปาร์คเก้น
วันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2556
เอฟซี โคเปนเฮเก้น 0:2 เรอัล มาดริด
ประตู : 0-1 โมดริช น.25, 0-2 โรนัลโด้ น.48
คลิปไฮไลท์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เอฟซี โคเปนเฮเก้น 0-2 เรอัล มาดริด
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดสุดท้ายที่สนามปาร์คเก้น เจ้าบ้านเอฟซี โคเปนเฮเก้นตกรอบแบบซวยเล็กๆ นัดนี้กุนซือสตาเล่ โซลบัคเค่นส่งชุดใหญ่ลงสนามหวังทิ้งทวนให้แฟนๆประทับใจ มีตัวเก๋าโอลอฟ เมลล์เบิร์กและลาร์ส ยาค็อบเซ่นคุมแนวรับ แดนกลางมีรูริค กิสลาสันเป็นตัวทะลุทะลวง แนวรุกมีนิโคไล ยอร์เกนเซ่นตัวแสบลงล่าตาข่าย ฝั่งทีมเยือนเรอัล มาดริดเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มแล้วแต่คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคางทูมยังส่งนักเตะชุดเกือบใหญ่ลงสนาม มีให้โอกาสนาโช่ในแนวรับ แดนกลางส่งลูก้า โมดริชช่วยงาน แต่แนวรุกยังมีคริสเตียโน่ โรนัลโด้กับแกเร็ธ เบล คู่หูมหาประลัยลงทะลวงแนวรับเจ้าบ้านเช่นเคย ผู้ตัดสินนัดนี้ได้แก่เฟลิกซ์ ไบรช์ ชาวเยอรมัน
ครึ่งแรก
โคเปนฯซวย..ตัวความหวังเจ็บ
เริ่มเกมแค่ 9 นาทีลางร้ายมาเยือนโคเปนเฮเก้นแล้ว นิโคไล ยอร์เกนเซ่น หัวหอกตัวเก่งได้รับบาดเจ็บต้องถูกเปลี่ยนตัวออกให้คริสเตียน โบลานอสลงสนามแทน
ทักทายคนละที
ทั้งสองฝ่ายเล่นกันค่อนข้างเร็วแต่ยังไม่มีโอกาสทำประตูจนนาที 13 โคเปนเฮเก้นได้ทักทายก่อน รูริค กิสลาสันกระชากหนีมาร์เซโล่ถึงสุดเส้นฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางถูกแนวรับมาดริดเคลียร์ออกมาเข้าทางแถวสองเจ้าบ้านโหม่งออกซ้ายให้ปิแอร์ เบงก์สันจับแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายข้ามคานไปไหนก็ไม่รู้ แต่นาที 15 มาดริดได้ลุ้นบ้าง อัลบาโร่ อาร์เบลัวลากบอลขึ้นทางฝั่งขวาก่อนหักเข้าซ้ายแล้วเปิดเข้ากลาง แกเร็ธ เบลโฉบตัดหน้าแนวรับเจ้าบ้านสะบัดโหม่งแต่มากไปหน่อย บอลหลุดเสาสองออกหลังไป
มันคือศิลปะ!โมดริชคล้องแล้วปั่นสุดคลาสสิคให้ชุดขาวออกนำ
มาดริดเริ่มกดดันได้มากกว่าและขึ้นนำจนได้ในนาที 25 จังหวะแรกคริสเตียโน่ โรนัลโด้ซัดฟรีคิกแฉลบออกหลังเป็นลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ลูกเปิดของซาบี อลอนโซ่ถูกแนวรับโคเปนเฮเก้นเคลียร์เข้าทางอิสโก้แปะให้ลูก้า โมดริชบริเวณ หัวกระโหลก มิดฟิลด์โครแอตซอยเท้างึกๆๆๆเหมือนจะยิงด้วยซ้ายก่อนคล้องบอลหลอกแนวรับไปอีกทางแล้วปั่นด้วยขวาโค้งเสียบเสาแรกตุงตาข่ายอย่างเหนือชั้น ทีมเยือนออกตัวก่อน 1-0
โด้จิ๋วโชว์คลาสสองครั้งซ้อน
นาที 32 มาดริดมีลุ้นนำห่าง อลอนโซ่จ่ายเข้ากลางให้เบลตอกส้นเร็วติดลาร์ส ยาค็อบเซ่น แต่บอลกระดอนเข้าทางโรนัลโด้วอลเลย์ด้วยซ้าย บอลติดท็อปสปินเหมือนลูกปิงปองเด้งพื้นจะเสียบเสาแรกแต่โยฮัน วีลันด์ยืนตำแหน่งดีปัดออกหลังไปได้ อีกจังหวะนาที 37 คาริม เบนเซม่าจ่ายจากซ้ายเข้ากลางให้โรนัลโด้เลี้ยงตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวากะเข้าเสาสองเน้นๆแต่วีลันด์ไวอีกพุ่งปัดออกหลังได้ทัน
พระเจ้าไม่ช่วยโว้ย..ท่านเปาไม่หลงเหลี่ยมเดลานีย์
เกือบเกิดหัตถ์พระเจ้าขึ้นในเกมนี้แต่ฟ้ามีตา นาที 39 ปิแอร์ เบงก์สันเปิดเตะมุมฝั่งขวาโค้งหาปากประตู โธมัส เดลานีย์โฉบเข้าโหม่งเช็ดตัดหน้าอิเคร์ กาซิยาสตุงตาข่าย หะแรกกรรมการเฟลิกซ์ ไบรช์เหมือนให้ประตูและนักเตะกับแฟนบอลโคเปนเฮเก้นเฮกันแล้ว แต่หลังปรึกษาผู้ตัดสินที่สี่ก็ตัดสินใจไม่ให้เป็นประตูท่ามกลางการประท้วงและเสียงโห่ แต่จากภาพช้าชัดเจนว่าเดลานีย์ใช้มือเปลี่ยนทางบอลอย่างแนบเนียนจึงถือว่าคำตัดสินถูกต้องแล้ว น่าจับไปออกรายการบันทึกกรรมจริงๆสำหรับมิดฟิลด์รายนี้
วีลันด์เหนื่อยต่อเนื่อง
มาดริดควบคุมเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบและได้โอกาสปิดท้ายครึ่งแรกนาที 44 อลอนโซ่ได้ซัดไกล บอลพุ่งเรียดมีลุ้นเป็นประตูแต่วีลันด์ล้มตัวรับไว้ได้อย่างสวยงาม
จบครึ่งแรกมาดริดนำ 1-0 แบบไม่ต้องออกแรงมากนักเพราะโมเมนตัมมาเองหลังขึ้นนำ ขณะที่โคเปนเฮเก้นต้องปรับเกมอย่างหนักในครึ่งหลังหากยังอยากไปเล่นยูโรปา ลีกให้ได้ในฤดูกาลนี้
ครึ่งหลัง
คนนี้ขาดไม่ได้!โด้จิ๋วปาดจ่อๆให้ชุดขาวนำห่าง
เริ่มครึ่งหลังถึงแค่นาที 48 มาดริดก็ได้ประตูเพิ่มในรูปแบบคล้ายๆลูกแรก คริสเตียโน่ โรนัลโด้รับบอลจากแดนกลางก่อนกระชากหนีลาร์ส ยาค็อบเซ่นหลุดเข้าเขตโทษแต่แบ็คจอมเก๋าตามมากดดันให้มุมแคบ จังหวะยิงเลยติดเซฟวีลันด์ออกหลังเป็นลูกเตะมุม แนวรับโคเปนเฮเก้นโหม่งเคลียร์เข้าทางมาร์เซโล่ครอสไปเสาไกลเน้นๆให้เปเป้โหม่งชงให้โรนัลโด้ปาดจ่อๆด้วยขวาตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 800 ในบอลยุโรปของมาดริดด้วย ทีมเยือนนำห่าง 2-0
ไข่โคเปนฯยังไม่แตก..กิสลาสันกดเฉียดเสา
นาที 53 โคเปนเฮเก้นมีลุ้นตีตื้นเหมือนกัน ยุสเซฟ ทูทูห์โยนข้ามฟากให้กิสลาสันที่ดูเป็นเรื่องเป็นราวสุดแล้วของเจ้าบ้านเลี้ยงหลบมาร์เซโล่ตามด้วยกระชากหนีนาโช่เข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วกดเต็มๆบอลพุ่งเฉียดเสาแรกออกหลังไป
โคเปนฯศูนย์นัดกันเบี้ยว
โคเปนเฮเก้นได้ลุ้นตีตื้นอีกสองครั้งแต่ก็ไม่เสียวซ่านนัก นาที 67 เบงก์สันได้ซัดฟรีคิกด้วยซ้ายสุดแรงแต่แรงเกิน บอลเหินข้ามคานไปไกล อีกจังหวะนาทีถัดมาจากลูกเตะมุมฝั่งขวาเปิดเข้าเขตโทษ บอลขลุกขลิกเด้งเข้าทางเดลานีย์กลับตัววอลเลย์ด้วยซ้ายแต่พระเจ้ายังไม่ยกโทษให้ บอลข้ามคานไปแบบไม่มีลุ้น
ชุดขาวผ่อนเกิ๊น..นาโช่บล็อคลูกยิงเหนื่อยอีก
เหมือนให้งานรุ่นน้องยังไงชอบกลสำหรับมาดริด นาที 72 อิกอร์ เวโตเคเล่ อีกหนึ่งผลผลิตชั้นดีจากเบลเยี่ยมรับบอลก่อนกระชากหนีแนวรับเข้าเขตโทษแล้วกดเต็มๆด้วยขวาแต่นาโช่ตามมาบล็อคลูกยิงออกหลังทันอย่างหวุดหวิด
โด้จิ๋วเกือบเบิ้ล
นาที 75 โรนัลโด้เกือบบวกเพิ่มให้ตัวเองและทีมได้ อังเคล ดิ มาเรีย ตัวสำรองจ่ายตัดเข้าเขตโทษให้โรนัลโด้ที่หันหลังให้ประตูโชว์สเต็ปแตะซ้ายหันขวาหลอกแนวรับโคเปนเฮเก้นจนหัวหมุนก่อนหวดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลโค้งหนีมือวีลันด์ชนเสาเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
เล่นมากเกิน..โด้จิ๋วพลาดโทษ
นาที 88 โรนัลโด้ชวดบวกสกอร์ให้ตัวเองอีกครั้งหลังเรียกจุดโทษได้จากจังหวะรับบอลจากเบนเซม่าแล้วกระชากเข้าเขตโทษก่อนเจอเดลานีย์สไลด์เกี่ยวขาจนร่วง สตาร์โปรตุกีสลุกขึ้นมาสังหารเองแบบไม่เน้นเลยทำให้วีลันด์ที่ล้มไปแล้วยืดแขนปัดบอลไว้ได้
จบเกมเป็นอันว่ามาดริดเอาชนะไป 2-0 ปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มอย่างสวยงาม ส่วนโคเปนเฮเก้นอดไปต่อในบอลยุโรปอย่างสุดช้ำ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เอฟซี โคเปนเฮเก้น( 4-4-2 ) : โยฮัน วีลันด์ 8 - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น 5, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก 6, รักนาร์ ซิเกิร์ดส์สัน 6, ปิแอร์ เบงก์สัน 6 - รูริค กิสลาสัน 7, โธมัส เดลานีย์ 5, เคลาเดเมียร์ 6, ยุสเซฟ ทูทูห์ 6( มาร์วิน พูรี่ - น.79 ) - นิโคไล ยอร์เกนเซ่น[ คริสเตียน โบลานอส 6 น.9( คริสตอฟเฟอร์ เรมเมอร์ - น.79 ) ], อิกอร์ เวโตเคเล่ 5
สำรองไม่ได้ลงสนาม : ยาค็อบ เยนเซ่น, คริส สตั๊ดส์การ์ด, โธมัส คริสเตนเซ่น, เซซาร์ ซานติน
เรอัล มาดริด( 4-3-3 ) : อิเคร์ กาซิยาส 6 - อัลบาโร่ อาร์เบลัว 6, นาโช่ 6, เปเป้ 6, มาร์เซโล่ 7 - อิสโก้ 6( อังเคล ดิ มาเรีย 6 น.67 ), ซาบี อลอนโซ่ 7( อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ - น.77 ), *ลูก้า โมดริช 8( คาเซมิโร่ - น.82 ) - แกเร็ธ เบล 5, คาริม เบนเซม่า 5, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
สำรองไม่ได้ลงสนาม : ดีเอโก้ โลเปซ, ดาเนียล การ์บาฆาล, เฆเซ่ โรดริเกซ, อัลบาโร่ โมราต้า
แท๊กที่เกียวข้อง
ข่าวยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
วิเคราะห์บอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
โปรแกรมยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
ผลบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
แหล่งข่าวจาก www.soccersuck.com
ตารางคะแนน
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | a7ร์lซนal | 28 | 64 |
2 | ลิlวaร์p00l | 28 | 64 |
3 | llมulชสlตaร์ ciตี� | 28 | 63 |
4 | llอsตัn วิaa7 | 29 | 56 |
5 | สlปaร์ | 28 | 53 |
6 | llมulชสlตaร์ U1นlต | 28 | 47 |
7 | lวสต์llฮม U1ulต็d | 29 | 44 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | เลเวอร์คูเซ� | 26 | 70 |
2 | บาเยิร์น มิว | 26 | 60 |
3 | สตุ๊ตการ์ต | 26 | 56 |
4 | ดอร์ทมุนด์ | 26 | 50 |
5 | RB ไลป์ซิก | 26 | 49 |
6 | ไอน์ทรัค แฟร | 26 | 40 |
7 | เอาก์สบวร์ก | 26 | 35 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | อินเตอร์ มิล | 29 | 76 |
2 | เอซี มิลาน | 29 | 62 |
3 | ยูเวนตุส | 29 | 59 |
4 | โบโลญญ่า | 29 | 54 |
5 | โรม่า | 29 | 51 |
6 | อตาลันต้า | 28 | 47 |
7 | นาโปลี | 29 | 45 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | เรอัล มาดริด | 29 | 72 |
2 | บาร์เซโลน่า | 29 | 64 |
3 | คิโรน่า | 29 | 62 |
4 | แอธเลติก บิล | 29 | 56 |
5 | แอตเลติโก มา | 29 | 55 |
6 | เรอัล โซเซีย | 29 | 46 |
7 | เรอัล เบติส | 29 | 42 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 26 | 59 |
2 | แบรสต์ | 26 | 47 |
3 | โมนาโก | 26 | 46 |
4 | ลีลล์ | 26 | 43 |
5 | นีซ | 26 | 43 |
6 | ล็องส์ | 26 | 42 |
7 | โอลิมปิก มาร | 26 | 39 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บุรีรัมย์ ยู | 21 | 46 |
2 | แบงค็อก ยูไน | 20 | 42 |
3 | การท่าเรือ เ | 21 | 41 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 21 | 37 |
5 | ราชบุรี มิตร | 21 | 32 |
6 | ลำพูน วอริเอ | 20 | 28 |
7 | เมืองทอง ยูไ | 21 | 28 |
ดูทั้งหมด |
Sexy Room
ดูทั้งหมดMotor Zone
ดูทั้งหมด
1 สัปดาห์ มาแล้ว
views: (139)