สิงห์มีเงิบ!นำก่อนโดนไบรท์ตันรัวคืน 3-1 แพ้เลย
ออกแนวก่งก๊งมึนงงไปเลยสำหรับเชลซี เพราะอุตส่าห์เริ่มต้นได้ดี ทำประตูไปก่อน แต่กลับโดนทวงคืนพร้อมดอกเบี้ยแบบทันทีทันใดก่อนหมดครึ่งแรกบวกประตูปิดกล่องอีกดอกตอนท้ายเกม ทำให้พวกเขาอุ่นเครื่องแพ้ไบรท์ตันไป ถึง 3-1 เลยทีเดียว
เกมอุ่นเครื่อง
ไบรท์ตัน 3 - 1 เชลซี
ประตู :0-1 แลมพาร์ด น.34, 1-1 บิเซนเต้ น.37, 2-1 บาร์นส์ น.44, 3-1 ครอฟท์ส น.86
คลิปไฮไลท์ กระชับมิตรสโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-1 เชลซี
เชลซีลงอุ่นเครื่องในเกาะอังกฤษ หลังจากไปทัวร์ยังต่างแดนมา โดยพวกเขาเลือกใช้นักเตะชุมแน่นปี้กๆลง ไม่ว่าจะเป็นแลมพาร์ด, อาซาร์, ตอร์เรส, รามิเรสและเอสเซียง รวมทั้งเทอร์รี่ที่ลงสวมปลอกแขนกัปตันทีมคุมแนวรับให้ด้วย
บิเซนเต้คือตัวความหวังของทีมไบรท์ตันในเกมวันนี้ เนื่องจากเขามีประสบการณ์มากที่สุดเมื่อต้องเจอกับทีมหินๆ แถมฝีเท้าก็ไม่ได้ตกไปสักเท่าไหร่ด้วย
ครึ่งแรก
ผ่าน 10 กว่านาทีแรกไป ทั้งสองทีมลักษณะเหมือนมีสนิทเกาะอยู่นิดๆ ขยับเคลื่อนที่กันไม่ค่อยลื่นไหลมากเท่าที่ควร อาซาร์มีจังหวะได้ลากเลื้อยแต่โดนตัดได้ ส่วนแลมพาร์ดก็ซัดฟรีคิกไปหนึ่งดอก แต่คงต้องบอกว่ายังทำได้ไม่ดีพอ
นาทีที่ 26 ตอร์เรสได้มีโอกาสลองง้างสับไกดูบ้าง แม้ว่าจังหวะจะดูฝืนๆไปหน่อย ซึ่งเขาก็ซัดไปติดบล็อกกองหลัง ก่อนที่จะเข้าไปทางแลมพาร์ดแบบไม่ได้ตั้งตัว ก็เลยพยายามหวดซ้ำจนบอลปลิ้นออกหลังไป ยังดีกว่าไม่มีโอกาสจบล่ะนะ
นาทีที่ 31 เป็นจังหวะการเล่นที่น่าดูชมของตอร์เรสเลย เมื่อเขาเล่นทำชิ่งกับเพื่อน ก่อนจะทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ แตะบอลหลอกกองหลังไบรท์ตันไปได้แล้ว น่าเสียดายที่มีอีกตัวเข้าจิ้มบอลไว้ได้ก่อน ไม่งั้นคงได้ซัดเน้นๆไปแล้ว
อีก 3 นาทีต่อมา ในที่สุดตอร์เรสก็ได้หล่อสมใจ แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ทำประตู เมื่อรามิเรสพาบอลขึ้นหน้า ก่อนที่จะจ่ายทะลุไปให้กับเขาแบบเฉียงๆหน่อย หัวหอกสแปนิชก็เลยจัดการหลอกก้าวข้ามบอลให้ไหลต่อไปยังแลมพาร์ดที่วิ่งสอดขึ้นมายิงเน้นๆส่งบอลผ่านมือของคุซแซ็คเข้าประตูไป เชลซีนำแล้ว 1-0
แต่แล้วนาทีที่ 37 ไบรท์ตันก็มาทวงประตูคืนทันควันเลย เมื่อพวกเขาได้สวนกลับในจังหวะที่กองหลังของเชลซีลอยไปหน่อย ก่อนที่จะครอสบอลเข้ากลางให้กับบิเซนเต้วิ่งมาแปสุดละเมียด ส่งบอลพุ่งไม่แรงแต่ทิศทางเป๊ะผ่านมือเช็กเข้าไปเสียบเสาไกล เกมเสมอกันที่ 1-1
นาทีที่ 40 เชลซีเกือบได้ส้มซะแล้ว เพราะจังหวะการเปิดของอาซาร์ที่ตัดสินใจยัดเข้าไปลุยเอาหน้าประตู ไปโดนบรูโน่ซึ่งพยายามที่จะสกัดออกไปให้พ้น แต่ดันปลิ้นหลังเท้า พุ่งผิดทิศเกือบเข้าประตูตัวเอง ยังดีที่เบี่ยงออกหลังไป
เล่นเอาเงิบไปเลย เพราะก่อนหมดเวลาเพียงแค่นาทีเดียว เชลซีก็มาโดนทำประตูขึ้นนำ จากจังหวะสวนกลับของไบรท์ตัน บัคลี่ย์กระชากบอลบอลหนีกองหลัง ก่อนจะพยายามแตะหลบเช็ก ซึ่งเช็กทำได้ดีสกัดบอลเอาไว้ได้ แต่นั่นยังไม่พอ เพราะบาร์นส์วิ่งตามเข้ามาเก็บตกซัดแบบเต็มตีน บอลพุ่งผ่านกองหลังเชลซีที่พยายามบล็อกเข้าไปเสียบเสาสองสวยเยี่ยม ไบร์ทตันพลิก 2-1 ก่อนจบครึ่งแรกไป ต้องไปดูกันต่อว่าดิ มัตเตโอจะแก้เกมมายังไง
ครึ่งหลัง
ลงมาในครึ่งหลัง เชลซีพยายามเดินเครื่องเร่งที่จะเอาประตูตีเสมอคืนมาให้ได้ แต่ทางไบรท์ตันเองก็กำลังอยู่ในภาวะได้ใจอยู่ พวกเขาก็เลยยังเล่นไม่ดร็อปลงไปกว่าในครึ่งแรกสักเท่าไหร่
นาทีที่ 60 คุซแซ็คเกือบหลอนของแท้แล้ว เพราะโอบี มิเกลที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมาในครึ่งหลังพยายามตั้งป้อมซัดไกล แม้ว่าวิถีบอลยงไม่แจ่มเท่าไหร่ แต่บอลไปแฉลบขากองหลังทำให้เปลี่ยนทางจนคุซแซ็คหลงทิศ โชคดีที่บอลมันเฉี่ยวเสาออกไป
นาทีที่ 68 ดูเหมือนว่านี่จะเป็นตัวแสบของเชลซีในเกมนี้อย่างแท้จริงสำหรับบาร์นส์ เพราะว่าจังหวะนี้เขาก็เกือบจะทำประตู "สิงห์ไฮโซ" ได้อีกดอกจากการยิงใส่มุมเสา แต่ถูกซัดเอาไว้ได้เสียก่อน
อีก 4 นาทีต่อมา เชลซีมาได้โอกาสลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ทำเกมกันขึ้นไปได้ดี จนรามิเรสมีโอกาสหลุดเข้าไปยิงเน้นๆในเขตโทษ แต่ด้วยการที่มุมมันแคบ เลยเจอคุซแซ็คเซฟหนีบไว้หว่างขาแน่นหนึบเลย
นาทีที่ 79 ตอร์เรสโดนเปลี่ยนตัวออกไปจากสนาม โดยเชลซีส่งลูกากูลงไปเล่นแทน แม้ว่าครึ่งหลังจะมีจังหวะวูบวาบให้เห็น แต่ในครึ่งหลังก็ต้องยอมรับว่าแข้งสแปนิชแผลงฤทธิ์ไม่ได้ตามหวังเอาไว้
ก่อนหมดเวลา 4 นาทีเชลซีก็มาโดนประตูปิดกล่องสำหรับความพ่ายแพ้ในนัดนี้ จากการที่พวกเขาไปหยุดเล่นเพราะนึกว่าลูอีซจะได้ฟาวล์ เลยทำให้ครอฟท์สเอาบอลลากไปยิงผ่านเช็กตุงตาข่าย สรุปไบรท์ตันเซอร์ไพรส์แฟนบอลด้วยการอุ่นเครื่องเอาชนะเชลซีไปถึง 3-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ไบรท์ตัน : โทมัสซ์ คุสแซ็ค, ซอลเตอร์ บรูโน่, กอร์ดอน เกรียร์, เลวิส ดังค์, แอนดรูว์ ครอฟท์ส, แอชลี่ย์ บาร์นส, อินิโก้ คาลเดรอน, โรดริเกซ บิเซนเต้, แกรี่ ดิคเกอร์, เลียม บริดคัตต์, วิล บัคลี่ย์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, ราอูล เมเรเลส, มิคาเอล เอสเซียง, แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, เฟร์นานโด ตอร์เรส, เอด็องน์ อาซาร์