เซโก้ซัดโทน!เรือแลกหมัดเฉือนมวยโลก 1-0
เกมนี้มีโอกาสลุ้นประตูพอกันเลยทั้งสองทีมสุดท้ายก็เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้เด็ดขาดกว่าได้ประตูจากเอดิน เซโก้ยิงประตูชัยพาให้เอาชนะ"มวยโลก"เวสบรอมวิช อัลเบี้ยนไป 1-0 กลายเป็นการการันตีแล้วว่า"เรือใบสีฟ้า"จบอันดับในท็อปโฟร์ไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าแน่นอน
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2556
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1:0 เวสบรอมวิช อัลเบี้ยน
ประตู : 1-0 เซโก้ น.35
เกมนี้ทั้งสองทีมคงไม่มีผลอะไรแล้วเพราะจะลุ้นแชมป์หรือพื้นที่ยุโรปหรือตกชั้นอะไรก็หมดไปเรียบร้อย ทำให้สบายๆกันได้ไม่ต้องเครียดมาก แต่มีสถิตินิดหน่อยที่ซิตี้เจอกับเวสบรอมวิชใน 6 เกมหลังสุดพวกเขาไม่แพ้ให้เลยเก็บชัยได้ถึง 5 เกมด้วย
ครึ่งแรก
มวยโลกทักทายเจ้าบ้านก่อน
เปิดฉากมาเวสบรอมวิชก็ทักทายเจ้าบ้านใหญ่เลยมีโอกาสเฉียดๆประตูไปแล้วจากลูกากูที่ได้โอกาสสับไกในจังหวะกลางสนามระยะประมาณ 25 หลายิงด้วยซ้ายแต่บอลมันพุ่งเรียดแล้วไปหลุดเสาไกลออกหลังไปนิดหน่อย
เตฟได้กดแต่หลุดเสาแรก
มานาทีที่ 9 เป็นโอกาสของเจ้าบ้านบ้างจากจังหวะโต้กลับที่นาสรี่พาทะลุขึ้นมาตรงกลางก่อนจะฝากไปให้กับเตเบซทางซ้าย ก่อนจะจ่ายคืนมาทำชิ่งกับนาสรี่แล้วสุดท้ายเตเบซก็ไปจบด้วยการยิงหน้าเขตโทษแต่บอลหลุดเสาแรกออกไปพอสมควร
รอดเวลล์ตวัดยิงแต่กดไม่ลงข้ามคาน
เกมตรงกลางของเวสบรอมวิชมาแข็งใช้ได้เลยทำแมนฯ ซิตี้ขึ้นเกมลำบาก แต่"เรือใบ"ยังได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกริมเขตโทษขวาเปิดเข้าไปด้านใน มายฮิลล์ออกมารับบอลหลุดมือมาเข้าทางของรอดเวลล์พยายามตวัดยิงกดไม่ลงข้ามคานออกไป
ทามาสเลือดอาบเลยแต่เล่นต่อสบาย
แล้วมีจังหวะที่เลือดอาบด้วยเป็นจังหวะที่ทามาสพยายามจะโหม่งตัดบอลแล้วโคลารอฟก็พยายามจะใช้เท้าแย่งบอลมาให้ได้เลยยกเท้าสูงเข้าหลังใบหูทามาสทำเอาเลือดอาบอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีอะไรมากออกไปซับเลือดพันผ้าแล้วกลับมาลงสนามเหมือนเดิม สุดท้ายโคลารอฟรับเหลืองไป
นิดนึง!เตฟตวัดยิงยังหลุดคานออกหลัง
นาที 26 แมนฯ ซิตี้ยังเฉียดไปมาหนนี้เป็นจังหวะที่บอลเปิดเข้าเขตโทษสุกท้ายล้นออกมาให้กับเตเบซหน้าเขตโทษ เลือกถ่ายออกไปทางขวาให้มิลเนอร์ สุดท้ายมิลเนอร์ก็จ่ายคืนมาให้เตเบซที่เดิมแล้วยิงด้วยขวาแบบไม่ต้องจับสุดท้ายบอลข้ามคานไป
ยังแค่เกือบ!เตฟซัดชนคานอย่างจังเบอร์
"เรือใบ"น่าได้ประตูเป็นอย่างที่สุดในจังหวะนี้จากนาสรี่ฝากบอลมาให้โคราลอฟสุดเส้นซ้ายแล้วจ่ายต่อมาหน้าเขตโทษให้กับเตเบซอีกที ทำท่าจะสับด้วยซ้ายแต่ล็อกเข้าขวาแล้วปั่นสุดพลังน่าเสียดายบอลยังไปชนคานกระดอนออกมา
จนได้!เตฟตักให้เซโก้ยิงแบบไม่จับไม่เหลือ
สุดท้ายนาที 35 เจ้าบ้านก็เอาประตูได้สำเร็จจากบอลที่นาสรี่ไปขยันไล่บอลมาตรงกลาง ตกมาอยู่กับรอดเวลล์เปิดทีเดียวให้เตเบซหลุดมาทางขวาก่อนจะเปิดตักไปทางเสาไกลที่เซโก้ตั้งเท้ารอแล้วยิงแบบไม่ต้องจับส่งบอลผ่านมายฮิลล์เข้าไปได้ แมนฯ ซิตี้ออกนำเรียบร้อย 1-0
ท้ายเกมเรือรัวใหญ่แต่ไม่มีประตู
ช่วงท้ายครึ่งแรกเกือบมีประตูที่สองของแมนฯ ซิตี้หลายครั้งทั้งจังหวะเปิดของมิลเนอร์ที่โดนปัดเข้าทางรอดเวลล์ยิงซ้ำก็ยังไม่ผ่านบล็อก ตามมาด้วยจังหวะยิงไกลของมิลเนอร์ที่บอลติดไซด์ก้อยแต่โค้งไปมากหน่อยชนเสาออกหลังน่าเสียดาย ทดเจ็บก็เกือบเป็นรอดเวลล์ที่บวกได้อีกจากเตเบซที่ไหลมาให้เข้าเขตโทหลอกมาสวยแต่กดข้ามคาน สุดท้ายจบแล้วยังนำอยู่แค่ 1-0
ครึ่งหลัง
มวยโลกเกือบนำ!โรเซนเบิร์กกดฟรีคิกชนคาน
กลับมาครึ่งหลังเกือบมีประตูตีเสมอของ"มวยโลก"เลยจากจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษประมาณ 25 หลา โรเซนเบิร์กเป็นคนสับไกผ่านข้ามกำแพงไปแล้วสุดท้ายบอลยังไปชนคานกระดอนออกมา ลอยไม่ไปไหนเข้าหัวโจนส์โขกแต่ฮาร์ทยังผวาปัดไปได้
มอร์ริสันยิงอีกยังเจอฮาร์ทปัด
เข้าครึ่งหลังดูเวสบรอมวิชจะมาดีกว่าอีกแล้วในช่วงต้นได้โอกาสลงยิงอีกทีในนาที 55 เป็นการยิงไกลของมอร์ริสันกดเรียดจากหน้าเขตโทษเข้ามาแต่สุดท้ายยังเจอฮาร์ทพุ่งปัดออกหลังไปได้อีก
เรือลุ้นเกือบได้ประตูสอง
แมน ซิตี้มาเฉียดๆการหาประตูที่สองเจอจากจังหวะนาสรี่ครอสเข้าไปแล้วมันจบลงที่รอดเวลล์สอดมาโดดๆแหย่ๆแต่ก็ไปติดบล็อกทามาส สุดท้ายก็ย้อนกลับมาอยู่กับรอดเวลล์อีกครั้งในอีกจังหวะแล้วเจอมายฮิลล์เซฟได้อีก
มิลเนอร์เกี่ยวมายิงยังเบาไป
แมนฯ ซิตี้มาอีกครั้งกันในนาที 70 จากบอลของนาสรี่หยอดขนานเส้นให้กับมิลเนอร์ทางริมเขตโทษขวาเกี่ยวแล้วหลบตัวประกบเข้าเขตโทษมาได้ก่อนจะลองตัดสินใจยิงด้วยซ้ายแต่ก็เบาไปหน่อยเข้าซองมายฮิลล์สบาย
มวยโลกยังได้แค่เฉียดไม่เป็นประตู
เวสบรอมวิชก็ยังไม่ได้ประตูซักทีมัวแต่เฉียดไปมาอยู่นั่น หนนี้จังหวะเตะมุมทางแมนฯ ซิตี้เคลียร์ไม่ออกเจอมูลุมบูไปปั้มบอลแย่งมาได้ในเขตโทษแล้วปาดไปแถวเสาแรกที่โอลส์สันพยายามตวัดยิงสุดท้ายก็ยังติดบล็อกแล้วโดนเตะออกมาอีก
ลองลงมายิงแต่ยังเข้าข้างตาข่าย
"มวยโลก"แก้เกมส่งลองลงมาเพิ่มเติมเกมรุกละเกือบทำประตูได้ด้วยจากบอลมูลุมบูบอมบ์ขึ้นหน้ามา ลูกากูโขกชงให้กับลองสปีดมาเก็บบอลทางขวาก่อนจะได้ยิงเล็งเสาแรกแต่บอลติดไซด์พุ่งเข้าข้างตาข่าย
เรือได้ลุ้นท้ายเกมแต่ยังหาประตูฝังไม่ได้
ช่วงท้ายเกมนาที 87 มีโอกาสให้เจ้าบ้านได้ฝังอยู่หลายครั้งแต่ยังไม่มาซักที เริ่มต้นที่บอลทะลุให้มิลเนอร์เข้าเขตโทษทางขวาแล้วปาดมาให้เซโก้ยิงแฉลบแต่มายฮิลล์ยังไม่หลงผวาคว้าติดมือ อีกจังหวะก็ไมค่อนทะลุมาทางขวาอีกแล้วก่อนปาดมาหน้าประตูให้แบร์รี่จับแล้วยิงสุดท้ายก็ยังเข้ามือมายฮิลล์
สุดท้ายจบเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เอาชนะเวสบรอมวิชไปได้ 1-0 พวกเขาได้ขยับเข้าหาแมนฯ ยูไนเต็ดเหลือ 10 คะแนนแม้จะไม่ส่งผลอะไรแล้วและการันตีไปแชมเปี้ยนส์ลีกแบบตามการทางทฤษฎีเรียบร้อย ส่วนเวสบรอมวิชก็ยังสบายอยู่เพราะลอยตัวมานานอยู่ในอันดับ 8 ต่อไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 6.0, ไมกาห์ ริชาร์ดส์ 5.5, โจลีออน เลสคอตต์ 5.5, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ 5.0, โคโล่ ตูเร่ 5.5, เจมส์ มิลเนอร์ 6.0, ซามีร์ นาสรี่ 6.0 (แบร์รี่ น.73 5.5), ฆาบี้ การ์เซีย 5.5, แจ๊ค รอดเวลล์ 6.0 (ไมค่อน น.76 -), เอดิน เซโก้ 7.0, คาร์ลอส เตเบซ 8.0* (ราซัค น.90 -)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คอสเทล พานทิลิมอน, มัทย่า นาสตาซิส, ดาบิด ซิลบา, แซร์คิโอ อเกวโร่
เวสบรอมวิช อัลเบี้ยน : โบอาซ มายฮิลล์ 5.5, โจนาส โอลส์สัน 5.5, เคร็ก ดอว์สัน 5.5, กาเบรียล ทามาส 6.0 (ลอง น.81 -), บิลลี่ โจนส์ 6.0, เคลาดิโอ ยาค็อบ 6.0 (ดอร์แรนส์ น.71 5.5), เลียม ริดจ์เวลล์ 5.5, เจมส์ มอร์ริสัน 6.0, ยุสซูฟ มูลุมบู 7.0, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก 5.0 (โอเด็มวิงกี้ น.76 -), โรเมอู ลูกากู 7.0
สำรองไม่ได้ลงสนาม : เบน ฟอสเตอร์, โกราน โปปอฟ, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, สตีเฟ่น รีด