โลเปซซูเปอร์ซับ!ทั้งยิงทั้งจ่ายมิลานพลิกแซงอูดิ2-1ขึ้นจ่าฝูง
"ปีศาจแดงดำ"เอซี มิลานมาได้แม็กซี่ โลเปซที่กลายเป็นซูเปอร์ซับหลังตีเสมอและจ่ายให้เอล ชาราวียิงประตูชัยนำเอซี มิลานพลิกกลับมาเอาชนะอูดิเนเซ่ 2-1แซงยูเวนตุสขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงแต่แข่งมากกว่าถึง 2 นัด
กัลโช่ เซเรีย อา
วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555
อูดิเนเซ่ 1 : 2 เอซี มิลาน
ประตู : 1-0 ดิ นาตาเล่ น.19, 1-1 โลเปซ น.77, 1-2 เอล ชาราวี่ น.85
คลิปไฮไลท์ กัลโช่ เซเรีย อา อูดิเนเซ่ 1-2 เอซี มิลาน
ถือเป็นเกมใหญ่นัดนึงของกัลโช เซเรีย อา เมื่อทีมหัวแถวมาเจอกันเองอันดับ 4 อูดิเนเซ่ระบการมาเยือนของเอซี มิลานรองจ่าฝูงหากเจ้าบ้านชนะได้จะมีแต้มทาบ"ปีศาจแดงดำทันที"ส่วนทีมเยือนถ้าชนะก็จะขึ้นไปยืนจ่าฝูงชั่วคราวสภาพความพร้อมเจ้าถิ่นถือมีดิ นาตาเล่ลงยืนล่าตาข่ายส่วนทีมเยือนต้องขาดอิบราฮิโมวิชที่โดนแบนไป
ครึ่งแรก
เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน
นาทีที่ 3 ดิ นาเตเล่ก็จ่ายบอลให้กับอาร์เมโร่หลุดเข้าไปยิงแต่ตรงตัวของอเมเลียรับไว้ได้สบาย 4 นาทีต่อมาอับดิก็ได้ลองส่องด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษแต่ก็ยังหลุดออกนอกกรอบไป
อิสลาส่องได้เสียว
แม้ว่ามิลานจะได้ครองบอลมากกว่าแต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ค่อยได้และใน นาทีที่ 15 อูดิเนเซ่น่าได้ประตูขึนนำอย่างยิ่งเมื่อดิ นาตาเล่เปิดลูกเตะมุมมาให้กับอิสลาที่ยืนรออยู่นอกกรอบเขตโทษได้กดเด้วยขวาเต็มๆบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
มิลานโดนจนได้
นาทีที่ 19 อูดิเนเซ่ก็มาได้ประตูขึ้นนำเมื่อดิ นาตาเล่ทำชิ่งหนึ่งสองกับกับเฟร์นานเดซก่อนจะหลุดเข้าไปในเขตโทษและซัดด้วยซ้ายผ่านมืออเมเลียเข้าประตูไป เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0
อูดิน่าได้ลูกสอง
นาทีที่ 35 ดิ นาตาเล่ก็เกือบยิงประตูที่ 2 ได้เมื่อรับบอลมาจากอิสลาแต่ดันยิงจังหวะแรกหลุดกรอบออกไปโคตรน่าเสียดาย ส่วนรูปเกมมิลานยังได้ครองบอลมากกว่าเหมือนเดิมแต่การขาดอิบราไปทำให้เกมรุกวันนี้ยังตื้อๆอยู่ ขณะที่เจ้าถิ่นบุกสวนทีไรก็ดูน่ากลัวทุกที
ทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง
ในช่วงท้ายครึ่งแรกโรบินโญ่ที่วันนี้เงียบมากๆก็ไหลบอลคืนมาให้กับเม็กแซสที่เติมขึ้นมาได้ส่องจากนอกกรอบเขตโทษแต่ก็ไปตรงตัวของฮันดาโนวิชรับไว้ได้สบาย จบครึ่งแรก อูดิเนเซ่ขึ้นนำเอซิ มิลานอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
มิลานดาหน้ายิงแต่ยังไม่ได้
เริ่มครึ่งหลังมาแค่ 3 นาทีโรบินโญ่ก็จ่ายบอลให้กับเอมานูเอลสันได้ยิงไปติดบล็อกไปเข้าทางของโนเชริโนที่ได้โหม่งแต่โดนไม่เต็มหัวบอลหลุดกรอบออกไป มิลานชวดตีเสมออย่างน่าเสียดาย
.
อัลเลกรีแก้เกมมาดี
ครึ่งหลังเกมของ"ปีศาจแดงดำ"ดูดีมีไอเดียขึ้นทำเกมบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นได้มากกว่าครึ่งแรกแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่สามารถจบสกอร์กันได้ แฟนบอลจึงร้องเรียกชื่อของฟิลิปโป้ อินซากี้ที่วันนี้มีชื่ออยู่บนมานั่งสำรองด้วย
อาร์เมโร่พลาดโอกาสยิง
นาทีที่ 62 ดิ นาตาเล่ก็เปิดบอลให้กับอาร์เมโร่ตรงกลางแต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรเม็กเซสก็ตามมาสกัดไว้ได้ทันก่อนที่เมสบาห์จะสกัดออกหลังไป ช้าไปจังหวะนี้สำหรับอาร์เมโร่
อูดิเน่เซ่ลงไปรับทั้งทีม
เหลือเวลาอีก 20 นาทีตอนนี้เป็นมิลานที่บุกหนักพยายามจะทวงประตูตีเสมอให้ได้ โดยผู้เล่นของเจ้าถิ่นลงไปตั้งรับในแดนของตัวเองทั้ง 11 คนขณะที่มิลานก็เปลี่ยนเอาแม็กซี่ โลเปซลงมาแทนโนเชริโน
แม็กซี่ลงมาก็ได้เรื่องเลย
นาทีที่ 77 มิลานก็มาได้ประตูตีเสมอเมื่อแม็กซี่ โลเปซกองหน้าตัวสำรองได้บอลจากลูกหลุดมือของฮันดาโนวิชก่อนจะยิงด้วยซ้ายเข้าไป สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 1-1 แล้ว
ทีมเยือนเกือบแซงนำ
2 นาทีต่อมากองหลังเจ้าถิ่นกับผู้รักษาประตูสื่อสารกันไม่ดีทำให้เอล ชาราวี่เข้ามาฉกบอลไปก่อนจะยิงติดบล็อก โรบินโญ่วิ่งเข้ามาซ้ำแต่กองหลังเจ้าถิ่นก็เคลียร์สกัดออกมาจากเส้นได้อีก
มิลานเอาจนได้
ในที่สุดเอซี มิลานก็มาแซงนำจนได้ในนาทีที่ 85 ในจังหวะสวนกลับเมื่อโลเปสครอสบอลให้กับเอล ชาราวี่ที่อยู่หน้าประตูยิงเข้าไป จบเกมเอซี มิลานพลิกกลับมาเอาชนะอูดิเนเซ่ไปได้ 2-1 ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงมีแต้มมากกว่ายูเวนตุส 2 คะแนนแต่แข่งมากกว่าอยู่ 2 นัดส่วนเจ้าถิ่นแพ้ในบ้านเป็นนัดแรกของฤดูกาลยังอยู่ที่ 4 ต่อไปมี 41 คะแนนจาก 23 นัด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อูดิเนเซ่ : ซามีร์ ฮันดาโนวิช, ดานิโล่, เมาริซิโอ โดมิซซี, เมดิห์ เบนาเตีย, เกลสัน เฟร์นานเดซ, เมาริซิโอ อิสลา(จิโอวานนี่ ปาสเกวเล่ น.61), มิเชล ปาเซียนซ่า(กาเบรียล ทอร์เฆ่ น.88), ปาโบล อาร์เมโร่, ดูซาน บาสต้า, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่
(อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส น.76), อัลเมน อับดิ
สำรองไม่ได้ใช้ : ดาเมียโน่ เฟร์โรเน็ตติ, อันเดรีย โคดา, ดานิเอเล่ ปาเดลลี่, คริสเตียน บาตตอคคิโอ้
เอซี มิลาน : มาร์โก้ อเมเลีย, ธิอาโก้ ซิลวา, ฟิลิปป์ เม็กเซส, มัสซิโม อัมโบรซินี, ดาเมล เมสบาห์, อิกนาซิโอ อบาเต้, คลาเร้นซ์ ซีดอร์ฟ, อันโตนิโอ โนเชริโน(แม็กซี่ โลเปซ น.66), อูร์บี้ เอมานูเอลสัน, โรบินโญ่(ดานิเอเล่ โบเนร่า น.88), สเตฟาน เอล ชาราวี
สำรองไม่ได้ใช้ : ฟิลิปโป้ อินซากี้, จิอันลูก้า แซมบร็อตต้า, คริสเตียน อับเบียติ, ลูก้า อันโตนินี่, มัตเตีย วาโลติ