ปืนครื้นเครงยิงหงส์ขาวดับคารัง 2-0 จี้สิงห์ 2 แต้ม
อาร์เซน่อลกลับมาทำให้แฟนบอลกระชุ่มกระชวยต่อเนื่องเป็นนัดที่สองเมื่อบุกไป พิฆาตทีมที่ไม่แพ้ใครในบ้านมาตั้งแต่เดือนธันวาคมอย่างสวอนซี ซิตี้ 2-0 จากฝีเท้าของนาโช่ มอนเรอัลและแชร์วินโญ่ทำให้"ปืนใหญ่"ไล่จี้เชลซีทีมอันดับสี่อยู่ 2 แต้มเท่านั้น
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2556
สวอนซี 0 : 2 อาร์เซน่อล
สนาม : ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม
ประตู : 0-1 นาโช่ มอนเรอัล น.74, 0-2 แชร์วินโญ่ น.90+1
สวอนซีกำลังมองหาชัยชนะ 4 เกมติดต่อกันในบ้านแถมพวกเขายังไม่แพ้ใครในลิเบอร์ตี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีทีแล้ว เกมนี้โชคดีได้ลีออน บริตตันผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามได้ ส่วนแนวรุกมีมิชู, นาธาน ดายเออร์และปาโบล เอร์นานเดซลงประจำการตามปรกติ
อาร์เซน่อลพักคีแรน กิ๊บบ์สเพราะไม่อยากเร่งใช้งานหนักเกินไป ทำให้นาโช่ มอนเรอัลได้ลงยืนแบ็คซ้ายแทน ส่วนแนวรุกมอบหมายให้โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ยืนหน้าเป้าขนาบข้างด้วยตัวความเร็วสูงอย่างอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนกับธีโอ วัลค็อตต์
ที่น่าสังเกตคือวอยเซียจ เชสนี่กับโธมัส แฟร์มาเล่นยังเป็นเพียงตัวสำรองในเกมนี้ซึ่งยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับข่าวลือ ที่ว่าทั้งคู่อาจถูกขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์
ครึ่งแรก
ปืนเปิดหัวสวยมีจูบคาน
ออกสตาร์ทมา 5 นาทีอาร์เซน่อลได้เสียวก่อนเมื่ออ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนอาศัยความเร็วกระชาก หลบแรงเคลจากฝั่งซ้ายตัดเข้าในมายิงผ่านมือฟอร์มไปกระแทกอย่างจัง
ซุง-ยองแทงทะลุช่องงามเวอร์
แต่นาที 13 สวอนซีก็ตอบโต้กลับมาได้อย่างน่ากลัวเมื่อซุง-ยองแทงบอลทะลุช่องให้แรงเคล ที่เหมือนล้ำหน้าแต่ไลน์แมนไม่ว่าเลยหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงหนีมือฟาเบียนสกี้ หลุดเสาแรกไปเฉียดฉิว
มิชูน่าจัดได้สักเม็ด
สี่นาทีถัดมา"หงส์ขาว"น่าได้ประตูขึ้นนำเมื่อเด กุซแมนจ่ายบอลยัดเข้ากรอบเขตโทษให้มิชูเกี่ยวบอลหลบแมร์เตซัคเกอร์ได้ก่อน หมุนตัว 360 องศาพลิกมายิงหลุดเสาขวาไปนิดเดียว
กาซอร์ล่าวอลเล่ย์ใบไม้ร่วง
เกมคู่นี้ค่อนข้างสนุกตรงที่ผลักกันบุกกันทั้งสองฝ่ายและนาที 20 ชิรูด์ก็ผลักบอลมาให้กาซอร์ล่าจับบอลกระดอนขึ้นมาเลยจัดการวอลเล่ย์ไปโดน ฟอร์มปัดเอาไว้ได้ในจังหวะแรกแล้วตามรับอีกที
ซุง-ยองคิลเลอร์พาสได้เรื่อย
นาที 33 ซุง-ยองปล่อยอาวุธเด็ดอย่างลูกคิลเลอร์พาสอีกแล้วหลังแทงทะลุช่องจากทางด้าน ซ้ายให้มิชูพาบอลควบเข้าไปกดติดเซฟของฟาเบียนสกี้ที่เสาแรกแต่ลูกนี้ไลน์แมน ตีธงล้ำหน้าไปแล้ว
แชมเบอร์เลนส่องไกลตกบนคาน
ก่อนพักครึ่งสามนาทีกาซอร์ล่าลากบอลจากทางซ้ายตัดเข้าในมาจ่ายให้อ็อกซ์ เลด-แชมเบอร์เลนวิ่งเข้าตะบันที่ระยะ 25 หลาบอลพุ่งหนีฟอร์มไปตกบนคานกระดอนออกหลังเลยยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง
กาซอร์ล่าหันมาส่องไกล
เข้าสู่ครี่งหลังอาร์เซน่อลกลับมาบุก่อหวังทำประตูโดยนาที 52 ชิรูด์จ่ายบอลจากทางฝั่งซ้ายมาให้กาซอร์ล่าใช้ความคล่องกระชากหนีวิลเลี่ยม ส์จนได้ส่องไกลหน้าเขตโทษถูกฟอร์มป้องกันไว้ได้
ปาโบลลากเข้าในซัดไกลข้ามคาน
นาที 58 เป็นโอกาสของสวอนซีบ้างเมื่อปาโบลเล่นกระชากบอลจากทางริมเส้นด้านซ้ายหลบสอง ตัวประกบตัดเข้าในมายิงที่หน้าเขตโทษแต่น่าเสียที่ควบคุมทิศทางไม่ดีเลยไม่ ตรงกรอบ
เอาจนได้!มอนเรอัลหวดเปรี้ยงเป็นประตู
แต่แล้วนาที 74 "ปืนใหญ่"ก็ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่กาซอร์ล่าลากบอลจากหน้าเขตโทษหนีไปทางซ้ายแล้วจ่ายเข้าในให้ชิ รูด์ยิงเองไม่ได้เลยป้ายคืนมาให้มอนเรอัลสังหารเข้าเสียบเสาไกล
แชร์วินโญ่ตัดเข้าในยิงติดเซฟ
เท่านั้นเกือบไม่พอเมื่ออีกสองนาทีถัดมาแรมซีย์จ่ายบอลให้แชร์วินโญ่พาบอล หนีไปทางด้านซ้ายก่อนล็อคหลบตัวประกบแล้วยิงมาติดเซฟของฟอร์มที่ยืนตำแหน่ง ป้องกันได้ดี
เด กุซแมนปั่นฟรีคิกเข้าตาข่ายข้าง
นาที 83 อาร์เตต้าไปตัดฟาวล์ใส่ปาโบลทางด้านซ้ายเสียฟรีคิกพร้อมรับใบเหลืองก่อนที่ เด กุซแมนก้าวมาปั่นบอลพุ่งไปเข้าตาข่ายด้านข้างหวุดหวิดได้ประตูไปเหมือนกัน สำหรับสวอนซี
แชร์วินโญ่ยิงปิดท้ายปืนเฮสนั่น
ช่วงทดเจ็บนาทีแรกแรมซี่ย์เปิดบอลให้แชร์วินโญ่หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงสวนตัว ฟอร์มอย่างเยือกเย็นให้อาร์เซน่อลบุกมาพิฆาตสอวนซีตายคาบ้าน 2-0 ไล่หลังเชลซีทีมอันดับ 4 อยู่ 2 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สวอนซี : มิเชล ฟอร์ม, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, แกรี่ มังค์, อังเคล แรงเคล, เบน เดวิส, ลีออน บริตตัน, ปาโบล เอร์นานเดซ, นาธาน ดายเออร์ (ลุค มัวร์ น.76), โจนาธาน เด กุซแมน , คี ซุง-ยอง (เวย์น เราเลดจ์ น.66), มิชู
สำรองไม่ได้ใช้ : เกร์ฮาร์ด เทรมเมล, ไคล์ บาร์ทลี่ย์, ดไวท์ เทียนดาลลี่, โรแลนด์ ลามาห์, อิเตย์ เชตเตย์
อาร์เซน่อล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, นาโช่ มอนเรอัล , คาร์ล เจนกินสัน, อาบู ดิอาบี้ (อารอน แรมซี่ย์ น.71 ), มิเกล อาร์เตต้า , ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (แชร์วินโญ่ น.71 ), ซานติ กาซอร์ล่า, โอลิวิเยร์ ชิรูด์
สำรองไม่ได้ใช้ : วอยเซียจ เชสนี่, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส, โธมัส โรซิชกี้, ฟรานซิส โคกูแล็ง