หวิดเซอร์ไพรซ์!สิงโตพลาดปล่อยแซมบ้าสอยท้ายเกมเจ๊า 2-2
แม้โดนบุกอยู่แทบทั้งเกมแต่"สิงโตคำราม"ทีมชาติอังกฤษเกือบยัดเยียดความบรรลัยให้กับบราซิลหลังเวย์น รูนี่ย์ส่องประตูสุดสวยให้ทีมพลิกขึ้นนำก่อนมาพลาดถูกยิงคืนในช่วงก่อนหมดเวลา 7 นาทีทำให้เสมอกันไป 2-2
ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2556
บราซิล 2 : 2 อังกฤษ
สนาม : มาราคาน่า
ประตู : 1-0 เฟร็ด น.57, 1-1 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.67, 1-2 เวย์น รูนี่ย์ น.79, 2-2 เปาลินโญ่ น.83
บราซิลจัดติอาโก้ ซิลวายืนประสานงานแดนหลังกับดาวิด ลุยซ์ที่คุ้ยเคยกับพวกอังกฤษเป็นอย่างดี โดยมีออสการ์กำกับเกมรุก ส่วนเนย์มาร์และฮัล์คป่วนริมเส้นหาโอกาสให้เฟร็ดเข้าจบสกอร์
อังกฤษเพิ่งเสมอไอร์แลนด์ 1-1 จนแกรี่ ลินิเกอร์วิจารณ์การทำทีมของรอย ฮ็อดจ์สันว่าโบราณเหลือเกิน ขณะที่การบาดเจ็บของผู้เล่นก็ทำให้พวกเขาเหลือแข้งประเภทเอาต์ฟิลด์ไว้ใช้งานเพียง 15 คน
เลห์ตัน เบนส์ได้ลุยแบ็คซ้ายแทนแอชลี่ย์ โคล ขณะที่แดนกลางมีฟิล โจนส์คอยวิ่งตัดเกมให้ไมเคิ่ล คาร์ริคและแแฟร้งค์ แลมพาร์ดปั้นเกมรุก โดยฝากความหวังล่าประตูไว้ที่เวย์น รูนี่ย์และธีโอ วัลค็อตต์
ครึ่งแรก
สิบนาทีแรกเนย์มาร์เหมายิง
เกมในช่วงสิบนาทีแรกเป็นบราซิลที่มีโอกาสบุกและลุ้นทำประตูมากกว่าทั้งจังหวะลอยตัววอลเล่ย์ติดบล็อกคาร์ริคของเนย์มาร์รวมไปถึงช็อตส่องไกลหลุดกรอบและปั่นฟรีคิกเข้าซองฮาร์ทด้วยเช่นกัน
อัลเวสส่องไกลเรียกเสียงคราง
นาที 17 เนย์มาร์แข้งใหม่ของบาร์เซโลน่าหลบหนีการไล่ล่าของผู้เล่นอังกฤษจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าด้านในแล้วไหลบอลต่อไปให้อัลเวสกระทุ้งไกลระยะกว่า 30 หลาหลุดโคนเสาซ้ายนิดเดียว
ฮาร์ทปฏิเสธโอกาสทองเนย์มาร์
นาทีถัดมาอัลเวสตั้งป้อมโยนบอลจากริมเส้นฝั่งขวามาที่เสาไกลให้เนย์มาร์เอาบอลลงโดยมีจอห์นสันพยายามเข้ามาเตะสกัดแต่พลาดเปิดช่องให้เนย์มาร์ได้ซัดไปติดเซฟฮาร์ทที่พุ่งมาบล็อกได้เร็ว
เนย์มาร์(อีกแล้ว)โยกหลบก่อนซัดหลุดเสา
อังกฤษยังหาช่องเข้าทำใส่เจ้าบ้านไม่ได้แถมนาที 22 ก็หวิดโดนทีเด็ดของเนย์มาร์ซึ่งรับบอลมาจากฮัล์คที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วล็อคหลบคาร์ริคจนได้เอี้ยวตัวปั่นบอลหลุดสามเหลี่ยมเสาขวา
สิงโตโงหัวไม่ขึ้น
บราซิลยังขึงเกมรุกบุกใส่ผู้มาเยือนอย่างต่อเนื่อง นาที 25 ออสการ์เปิดบอลเลียดยัดมาจากทางด้านขวาแต่จอห์นสันไหวตัวเคลียร์ทิ้งหน้าเส้นประตูได้ ขณะที่สองนาทีถัดมาเนย์มาร์จ่ายบอลตัดหลังแนวรับให้ฮัล์คสอดเข้าไปยิงติดเซฟของฮาร์ทบอลกระดอนมาให้เฟลิเป้หวดซ้ำแต่ก็ยังติดบล็อก
ออสการ์โยกหนีเบนส์ซัดติดเซฟ
เกม่านมาครึ่งชั่วโมงเนย์มาร์ยังสร้างปัญหาให้แนวรับอังกฤษไม่หยุดหย่อนเมื่อเป็นคนไหลบอลไปให้ออสการ์ที่หัวกระโหลกก่อนที่แข้งเชลซีโยกหลอกเบนส์จนเสียหลักแล้วยิงไปโดนฮาร์ทปัดไว้ได้
ก่อนเบรคครึ่งผลัดกันเข้าทำ
ท้ายครึ่งแรกออสการ์เปิดบอลจากฝั่งขวามาที่เสาแรกให้ฮัล์คไขว้ยิงหนีฮาร์ทหลุดโคนเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่อังกฤษก็มีโอกาสจากจังหวะที่จอห์นสันจ่ายให้วัลค็อตต์หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษด้านขวา ทว่าเซซาร์ยังยอดเยี่ยมพอที่จะป้องกันเอาไว้ ทำให้สกอร์ยังหยุดที่ 0-0
ครึ่งหลัง
เฟร็ดซ้ำดาบสองแซมบ้านำ 1-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังบราซิลทะยอยเปลี่ยนผู้เล่นลงมาปรับเกมซึ่งรวมถึงเอร์นาเนสที่นาที 57 เป็นคนปั่นบอลโค้งจากนอกกรอบเขตโทษไปชนคานก่อนที่เฟร็ดมาตามซ้่ำให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0
มิลเนอร์ส่องไกลแฉลบออกหลัง
นาที 64 มิลเนอร์ลากบอลจากทางด้านซ้ายมาลั่นไกหน้ากรอบเขตโทษระยะราว 22 หลาไปแฉลบขาซิลวากระดอนออกหลังได้เป็นลูกเตะมุม
รูนโขกเตะมุมหลุดกรอบนิดเดียว
จังหวะต่อเนื่องแลมพาร์ดเปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาเข้ามาให้รูนี่ย์โขกสะบัดมากไปเลยหลุดเสาซ้าย ขณะที่เคฮิลล์เซ็งผู้ตัดสินที่ไม่ทำอะไรเลยในจังหวะที่ตัวเองโดนลูอิซล็อคตัวไว้ไม่ให้ขึ้นโหม่ง
สิงโตเล่นชิ่งก่อน"โอซี"กดตีเสมอ
อีกสามนาทีถัดมาการเล่นบอลชิ่งของอังกฤษก็ทำให้ทีมตีเสมอ 1-1 เมื่อแชมเบอร์เลนลากบอลมาจ่ายให้แลมพาร์ดป้ายต่อไปยังรูนี่ย์แปะคืนมาให้ปีกอาร์เซน่อลตะบัน 22 หลาเบียดเสาซ้ายเข้าไป
รูนี่ย์ยิงงามหยดย้อย
เท่านั้นไม่พอเมื่อนาที 79 "สิงโตคำราม"ได้จังหวะสวนกลับขึ้นมาทางซ้ายก่อนที่มิลเนอร์ไหลบอลให้รูนี่ย์กระชากเข้าไปปั่นบอลโค้งหนีมือเซซาร์เข้าเสียบหน้าต่างเสาไหลงามหยดให้ทีมแซงนำ 2-1
เปาลินโญ่วอลเล่ย์อย่างคม
อย่างไรก็ตามพอถึงนาที 84 มูร่ากระชากบอลขึ้นมาทางขวาแล้วโยนเข้าไปให้เปาลินโญ่เอี้ยวตัววอลเล่ย์แบบไม่ต้องจับเข้าเสียบเสาแรกชนิดฮาร์ทได้แต่ยืนขาตายไปเลย จบเกมบราซิลเลยทำได้แค่เปิดบ้านเสมออังกฤษ 2-2 ในเกมอุ่นเครื่องที่มาราคาน่า
บราซิล : รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ชูลิโอ เซซาร์, ติอาโก้ ซิลวา, ดาวิด ลุยซ์, ดานี่ อัลเวส, เฟลิเป้ หลุยส์ (มาร์เซโล่ น.46), ลุยซ์ กุสตาโว่ (เอร์นาเนส น.46), เปาลินโญ่ (เบอร์นาร์ด น.84), ออสการ์ (ลูคัส มูร่า น.56 ), ฮัล์ค (เฟอร์นานโด น.72), เนย์มาร์, เฟร็ด (เลอันโดร ดามิเยา น.81)
สำรองไม่ได้ใช้ : ดิเอโก้ คาวาเลียรี่, เจฟเฟอร์สัน, ดันเต้, เรแวร์, ชีน, จ๊าดสัน
เทรนเนอร์ : หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, แกรี่ เคฮิลล์, ฟิล จาเกียลก้า, เกล็น จอห์นสัน (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.61 ), เลห์ตัน เบนส์ (แอชลีย์ โคล น.32), ฟิล โจนส์ , ไมเคิ่ล คาร์ริค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เจมส์ มิลเนอร์ , เวย์น รูนี่ย์ , ธีโอ วัลค็อตต์ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.84)
สำรองไม่ได้ใช้ : เบน ฟอสเตอร์, อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์, โจลีออน เลสค็อตต์, เจอร์เมน เดโฟ
เทรนเนอร์ : รอย ฮ็อดจ์สัน