พลิกนรก!สวีเดนยิง4ลูกรวดไล่เจ๊าอินทรีสุดมัน 4-4
สาวก"อินทรีเหล็ก"เยอรมนีช็อกกันไปทั้งบางเมื่อเห็นทีมรักขึ้นนำก่อน 4-0 แต่ดันมาโดนทีเด็ดของสวีเดนไล่ยิงคืน 4 ประตูรวดก่อนแบ่งแต้มกันไปแบบต้องลุ้นระทึกกันจนถึงนาทีสุดท้าย
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ซี
วันอังคารที่ 16 ตุลาคม 2555
เยอรมนี 4-4 สวีเดน
สนาม : โอลิมปิก สเตเดี้ยม เบอร์ลิน
ประตู : 1-0 มิโลสลาฟ โคลเซ่ น. 8, 2-0 มิโลสลาฟ โคลเซ่ น. 14, 3-0 แพร์ แมร์เตซัคเดอร์ น.38, 4-0 เมซุต โอซิล น. 57, 4-1 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช น. 61, 4-2 ไมเคิ่ล ลุสติก น.63, 4-3 โยฮัน เอลมานเดอร์ น. 75, 4-4 ราสมุส เอล์ม น. 93
คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เยอรมัน 4-4 สวีเดน
ครึ่งแรก
เปิดเกมมาเพียง 3 นาทีเยอรมนีได้ลุ้นประตูขึ้นนำเร็วจากจังหวะที่เจโรม บัวเต็งลากบอลไปสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนตบมาให้โธมัส มุลเลอร์ได้ยิงในกรอบเขตโทษด้านขวาเต็มแรงแต่ยังไปติดเซฟของอันเดรส อิซัคส์สันที่ตะปบเอาไว้ได้
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีมาร์โค รอยส์ได้บอลจากฟิลิป ลาห์มหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตวัดเร็วกลับมาบริเวณ จุดโทษที่มีมิโลสลาฟ โคลเซ่ล้มตัวซัลโวด้ายซ้ายบอลตุงตาข่ายอย่างสวยงาม
นาทีที่ 14 โคลเซ่แผลงฤทธิ์อีกครั้งจากจังหวะทำชิ่งเป็นสามเหลี่ยมสวยงามของเยอรมนีหน้า กรอบเขตโทษก่อนที่รอยส์จะหลุดเข้าไปเส้นหลังด้านซ้ายของกรอบเขตโทษเหมือน เดิมก่อนปาดเข้ามาให้ดาวยิงจากลาซิโอได้สังหารแต่บอลไปติดเซฟของอิซัคส์สัน ทว่าเขายังไงตามไปจิ้มบอลซ้ำเข้าก้นตาข่ายเป็นลูก 2-0
เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมงยังเป็นฝ่ายของเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกได้มากกว่าแต่ดู เหมือนว่าจะพยายามผ่อนเกมไม่เล่นในจังหวะได้เสียมากเท่าไรส่วนทีมเยือนก็หัน มาเน้นการเล่นหนักพยายามตัดบอลมาครองให้ได้บ้างเช่นกัน
มาถึงนาทีที่ 37 เมซุต โอซิลแทงบอลอย่างงามให้รอยส์หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปติดบล็อกขอ งอิซัคส์สันบอลทะลักมาถึงมิดฟิลด์เรอัล มาดริดปรี่เข้าซ้ำด้วยซ้ายเต็มข้อแต่บอลยังติดบล็อกกองหลังออกหลังไป
จากลูกเตะมุมบอลโดนเคลียร์ออกมาริมเส้นด้านซ้ายก่อนที่ลาห์มจะสาดยาวมาเสา 2 โธมัส มุลเลอร์โถมตัวขึ้นโขกเข้าไปกลางประตูและเป็นแพร์ แมร์เตซัคเดอร์ได้จังหวะตวัดด้วยขวาถนัดถนี่บอลพุ่งผ่านแผงกองหลังทีมเยือน เข้าไปเป็นประตูที่ 3 ของทัพ"อินทรีเหล็ก"
ครึ่งหลัง
เปิดเกมขึ้นมาเพียง 5 นาทีเยอรมนีได้โอกาสทำประตูก่อนจากจังหวะทำชิ่งอย่างสวยหน้าปากเขตโทษก่อน ที่บอลจะหลุดไปถึงมุลเลอร์ได้ตวัดยิงเร็วในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่อิซัคส์สัน ยังพุ่งออกมาบล็อกเอาไว้ได้
ประตูที่ 4 ของเยอรนีมาจนได้เมื่อมุลเลอร์ลากบอลขึ้นมาริมเส้นด้านขวาก่อนเปิดบอลข้าม ฟากมาให้โอซิลที่ยืนรออยู่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายได้หวดโล่งๆย้อนกลับไปบริเวณ เสาแรกบอลพุ่งผ่านมือของอิซัคส์สันที่ได้แต่ยืนมองเข้าไปตุงตาข่ายนาทีที่ 57
เผลอหน่อยเดียวสวีเดนมาได้ประตูตีไข่แตกจนได้ในจังหวะที่คัลสตรอมเปิดบอลสุด สวยมาจากกลางสนามให้ซลาตัน อิบราฮิโมวิชขึ้นขวิดเต็มหัวบอลพุ่งผ่านมือของมานูเอล นอยเออร์เข้าไปกระทบตาข่ายในนาทีที่ 61
เกมมาสนุกแบบงงๆเมื่อไมเคิ่ล ลุสติกจับบอลที่คัลสตรอมโยนโด่งมาจากกลางสนามลงอย่างนุ่มนวลในกรอบเขตโทษ ด้านขวาก่อนตวัดยิงทันทีบอลพุ่งเลียดลอดหว่างขาของนอยเออร์เข้าประตูไป
เกมของสวีเดนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยมีทีเด็ดจากลูกเปิดยาวของคัลสตรอมมา ให้อิบราฮิโมวิชคอยพักแล้วหาเพื่อนคอยวิ่งทำทางได้จบอยู่หลายครั้งแต่ก็ยัง ไม่สามารถยิงได้เพิ่มเมื่อเข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย
นาทีที่ 75 เยอรมนียุ่งแล้วเมื่ออเล็กซ์ คาคานิคลิชได้บอลหลุดไปสุดเส้นด้านซ้ายก่อนเงยหน้ามองมากลางประตูแล้วเปิด บอลเลียดเข้ามาให้โยฮัน เอลมานเดอร์วิ่งเข้ามายิงเน้นๆบอลพุ่งเข้าโคนเสา 2 เข้าไปมาถึงตรงนี้สกอร์กลับมาเป็น 4-3 แล้ว
สวีเดนพลาดโอกาสตีเสมออย่างที่สุดในจังหวะที่นอยเออร์ออกมาจั่วลมบอลมาถึงเอ ลมานเดอร์ที่วิ่งตามเข้ามากดดันก่อนผ่านบอลกลับหลังไปให้โทเบียส ซาน่าที่เพิ่งลงสนามมาได้ส่องประตูโล่งๆแต่เจ้าหนูที่เพิ่งลงสนามเกมแรกใน นามทีมชาติกลับลนยิงออกหลังไปไม่ได้ลุ้นท่ามกลางผองเพื่อที่โวยวายยกใหญ่ว่า ทำไมไม่ส่ง
ช่วงทดเวลานาทีสุดท้ายสวีเดนมาได้ประตูตีเจ๊าแบบสุดเหลือเชื่อในจังหวะที่ เปิดบอลเข้ามากลางอิบราฮิโมวิชขึ้นเบียดกับแมร์เตซัคเกอร์ก่อนบอลเลยมาถึง เอล์มที่ยืนอยู่โล่งๆบริเวณจุดโทษได้ซัดด้วยขวาเต็มเหนียวบอลพุ่งวาบหายไป พร้อมกับคว้า 1 แต้มมาให้ทีมทันที
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิป ลาห์ม , แพร์ แมร์เตซัคเดอร์ , เจโรม บัวเต็ง, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , เมซุต โอซิล , โธมัส มุลเลอร์ (มาริโอ เกิตเซ่ น. 67), โทนี่ โครส, มาร์โค รอยส์ (ลูคัส โพดอลสกี้ น. 88), มิโลสลาฟ โคลเซ่
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์, มาร์ค-อันเดร เทอร์ สเตเก้น, เบเนดิคท์ โฮวเดส, ไฮโก้ เวสเตอร์มันน์, อันเดร ชูร์เล่
สวีเดน : อันเดรส อิซัคส์สัน , ไมเคิ่ล ลุสติก , โยนาส โอลส์สัน, อันเดรส กรันควิสต์, เบห์รัง ซาฟารี, ราสมุส เอล์ม , เซบาสเตียน ลาร์สสัน (โทเบียส ซาน่า น. 77), พอนตุส เวิร์นบลูม (คิม คัลสตรอม น. 46), ซามูเอล โฮลเมน (อเล็กซานเดอร์ คาคานิคลิช น. 47), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช , โยฮัน เอลมานเดอร์
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โยฮัน ดาห์ลิน, เพอร์ ฮันส์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน, อดัม โยฮันส์สัน, ไมเคิ่ล อัลเมบัค, อันเดอร์ส สเวนส์สัน, คริสเตียน วิลเฮมส์สัน, มาร์คุส เบิร์ก, แมธ ราเนกี้
_________________