ช็อคหัวใจ!ฉลามดวลโทษคว่ำปราสาทสายฟ้าซิวถ้วย ก.สมัย 4
แทบเรียกว่าปาฎิหาริย์เลยก็ว่าได้สำหรับ"ฉลามชล"ชลบุรี เอฟซีหลังตามบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดสองลูกแล้วลูโดวิค ทาคามพังประตูตีเสมอในช่วง 15 วินาทีสุดท้ายก่อนมาวัดดวงเอาชนะดวลจุดโทษ 4-3 ครองแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก.สมัยที่ 4 ส่วน"ปราสาทสายฟ้า"สุดช้ำชวดคว้าแชมป์ 5 รายการซ้อนในปีเดียวกัน
ชิงถ้วยพระราชทาน ก. ปี 2555
วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม2555
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2 : 2 ชลบุรี เอฟซี
(ฉลามชลดวลจุดโทษชนะ 4-3)
สนาม : ศุภชลาศัย
ประตู : 1-0 ธีราทร บุญมาทัน น.32, 2-0 แฟรงค์ อาชิมปง น.33, 2-1 อดุล หละโสะ น.45, 2-2 ลูโดวิค ทาคาม น.90
ครึ่งแรก
เริ่มเกมจิรวัฒน์ยิงทักทาย
ในช่วงต้นเกมเป็นทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่ทำได้ดีกว่าโดยในนาที 3 พวกเขาวางบอลให้จิรวัฒน์ มัครมย์หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่ในจังหวะที่เพลย์เมคเกอร์แดนอีสาน วางเท้ายิงมีผู้เล่นชลบุรีมาบีบเลยกดข้ามคาน
นึกว่าเด เคอา!สินทวีชัยบินเซฟอย่างเท่
อีกสองนาทีถัดมาเจฟฟี่ ดูม็องไปพลาดเสียแถวบริเวณหัวกระโหลกให้กับสุมัญญา ปุริสายก่อนที่ห้องเครื่อง"ปราสาทสายฟ้า"ตัดสินใจชิพไปที่สามเหลี่ยมเสาซ้าย ทันทีทว่าสินทวีชัย หทัยรัตนกุลบินปัดข้ามคานออกไปได้
อาชิมปงขาสั้นชาร์จไม่ทัน
หลังเปิดหน้าแลกกันพักใหญ่พอถึงนาที 17 บุรีรัมย์ก็ใช้จังหวะสวนกลับเล่นงานแนวรับชลบุรีโดยที่สุมัญญา ปุริสายกระชากบอลขึ้นไปทางด้านขวาคนเดียวก่อนเปิดเข้ากลางให้แฟรงค์ อาชิมปงวิ่งมาชาร์จแต่ไม่ทัน
อัสคาร์เติมมาโขกหลุดเสา
นาที 22 อัสคาร์ จาดิเกรอฟลากบอลมาจากกลางสนามก่อนแทงบอลออกขวาให้อภิเชษฐ์ พุฒตาลที่โอเวอร์แล็ปขึ้นมาเปิดไปที่เสาไกลแล้วเป็นมิดฟิลด์อุสเบกิสถานนั่น เองที่วิ่งสอดมาโขกตัดหน้าสุทธินันท์ พุกหอมหลุดเสา
ธีราทรกดแฉลบตุงตาข่าย
อย่างไรก็ตามในนาที 32 บุรีรัมย์ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ธีราทร บุญมาทันพาบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษก่อนจ่ายออกซ้ายให้อัสคาร์ จาดิเกรอฟที่ล็อคหนีตัวประกบก่อนส่งคืนมาให้แบ็กซ้ายเลือดเดือดวิ่งเข้ามา ล้มตัวยิงด้วยขวาไปแฉลบขาโฟเด้ บองกาลี่เปลี่ยนทางผ่านสินทวีชัย หทัยรัตนกุลเข้าเสียบโคนเสาขวาให้ทีมนำ 1-0
อาชิมปงไม่น้อยหน้าซัดตามติด
เท่านั้นไม่พอเมื่อนาทีต่อมาจิรวัฒน์ มัครมย์กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวาแล้วบรรจงเปิดบอลโค้งไปให้แฟรงค์ อาชิมปงที่วิ่งสอดทะลุแนวรับ"ฉลามชล" มาเหยียดเท้าชาร์จบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ทีมทิ้งห่าง 2-0
อดุลซ้ำดาบสองไม่เหลือซาก
แต่"ฉลามชล"ไม่ยอมแพ้มาตามตีไข่แตกในช่วงก่อนพักครึ่งเมื่อสุรีย์ สุขะเปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ลูโดวิค ทาคามล็อคบอลหลบโอบาม่า โจเซฟแล้วกดไปติดเซฟศิวรักษ์ เทศสูงเนินกระดอนออกมาเข้าทางให้อดุล หละโสะซ้ำดาบสองไม่เหลือซากทำให้สกอร์ไล่ตามมาเป็น 2-1 เมื่อจบครึ่งแรก
ครึ่งหลัง
อัครวินท์ชาร์จไม่ถึงบอล
เข้าสู่ครึ่งหลังบุรีรัมย์ส่งตัวอันตรายอย่างแฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่าลงมาแทนสุรัตน์ สุขะในนาที 51 ทว่าเป็นฝั่งชลบุรีที่ทำได้ดีกว่าแล้วมีโอกาสตีเสมอในนาทีถัดมาเมื่อสุรีย์ สุขะเปิดบอลโค้งมาให้อัครวินท์ สวัสดีเข้าชาร์จแต่ประทุม ชูทองยังไวเข้ามาเบียดทำลายจังหวะได้เสียก่อนทำให้บอลผ่านหน้าประตูออกไป
ช่วงเวลาเปิดหน้าแลก
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายมาแลกเกมบุกกันเมื่อแฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่าลองส่องไกลไปเข้ามือสินทวีชัย หทัยรัตนกุลขณะที่ชลบุรีสวนกลับเป็นเทิดศักดิ์ ใจมั่นที่ครอสบอลไปให้ลูโดวิค ทาคามโหม่งเข้าซองศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
ชลบุรีเกมเหนือกว่า
เกมผ่านมาถึงนาที 63 ดูเหมือน"ฉลามชล"ครองเกมได้มากจนเป็นเหตุให้"ปราสาทสายฟ้า"ต้องปรับทัพด้วย การส่งเอควัลล่า เฮอร์แมนลงมาแพ็คเกมรับแทนที่ตัวปั้นเกมอย่างสุมัญญา ปุริสาย ขณะที่อีกห้านาทีถัดมาชลบุรีได้ลูกเตะมุมด้านขวาเป็นเทิดศักดิ์ ใจมั่นที่เปิดบอลมาให้อัครวินท์ สวัสดีโหม่งที่เสาแรกแต่ข้ามคาน
ซูเปอร์ซับฉลามมาแล้ว
นาที 74 ชลบุรีเติมกระสุนแดนหน้าส่งยอดซูเปอร์ซับอย่างสุกรี อีแตลงมาแทนเจฟฟี่ ดูม็องแต่การเล่นบอลด้านข้างแล้วเปิดเข้าไปกดดันในกรอบเขตโทษยังไม่อาจทำ อะไรบุรีรัมย์ที่ปรับมาเล่นระบบ 3 เซนเตอร์แบ็คได้
ท้ายเกมน้าเทิดเล่นลืมแก่
ช่วงทดเจ็บเทิดศักดิ์ ใจมั่นตั้งป้อมเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้อัครวินท์ สวัสดีวิ่งสอดเข้ามาโหม่งแต่กดไม่ลงเลยเหินข้ามคาน ส่วนฟรีคิกที่"น้าเทิด"ได้ปั่นในช็อตถัดมาก็ไม่ผ่านมือศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
ฉลามเฮลั่น!สองคามผนึกกำลังกดตีเสมอ
ก่อนจบเกม 15 วินาทีดราม่าก็เกิดขึ้นเมื่อความพยายามของชลบุรีมาประสบผลกับจังหวะที่ชล ทิตย์ จันทคามเปิดบอลจากฝั่งขวามาที่เสาแรกให้ลูโดวิค ทาคามโฉบเข้าซัดประตูให้เสมอกัน 2-2 ต้องดวลจุดโทษตัดสินแชมป์
ดวลจุดโทษ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : จิรวัฒน์ มัครมย์ = ไม่เข้า (ข้ามคาน)
ชลบุรี เอฟซี : โฟเด้ บองกาลี่ ไดคิเต้ = เข้า
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : สุเชาว์ นุชนุ่ม = เข้า
ชลบุรี เอฟซี : อัครวินท์ สวัสดี = ไม่เข้า (ข้ามคาน)
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ธีราทร บุญมาทัน = เข้า
ชลบุรี เอฟซี : สุกรี อีแต = ไม่เข้า (ติดเซฟ)
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ประทุม ชูทอง = ไม่เข้า (ติดเซฟ)
ชลบุรี เอฟซี : อดุล หละโสะ = เข้า
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : เอควัลล่า เฮอร์แมน = เข้า
ชลบุรี เอฟซี : เทิดศักดิ์ ใจมั่น = เข้า
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า = ไม่เข้า (ชนคาน)
ชลบุรี เอฟซี : คาซุโตะ คูชิดะ = เข้า
จบเกม"ฉลามชล"ชลบุรี เอฟซีโกงความตายกลับมาเฉือนชนะ"ปราสาทสายฟ้า"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในช่วงดวลจุดโทษ 4-3 หลังเสมอในเวลาปรกติ 2-2 ซิวถ้วยพระราชทาน ก.ไปครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 4
ขณะที่"ปราสาทสายฟ้า"พลาดการครองแชมป์รายการที่ 5 ต่อจากแชมป์ไทยลีก, มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ, โตโยต้า ลีก คัพและโตโยต้า พรีเมียร์ คัพไปอย่างน่าเสียดาย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน , อภิเชษฐ์ พุฒตาล, ธีราทร บุญมาทัน , โอบาม่า โจเซฟ ฟลอร็องต์ , ประทุม ชูทอง, จักรพันธ์ แก้วพรม, อัสคาร์ จาดิเกรอฟ , สุรัตน์ สุขะ (แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า น.51), สุมัญญา ปุริสาย (เอควัลล่า เฮอร์แมน น.63), จิรวัฒน์ มัครมย์ , แฟรงค์ อาชิมปง (สุเชาว์ นุชนุ่ม น.46)
เทรนเนอร์ : อรรถพล ปุษปาคม
ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, สุทธินันท์ พุกหอม, ชลทิตย์ จันทคาม , โฟเด้ บองกาลี่ ไดคิเต้, สุรีย์ สุขะ, นพนนท์ คชพลายุกต์ (คาซุโตะ คูชิดะ น.46), อดุล หละโสะ , เจฟฟี่ ดูม็อง (สุกรี อีแต น.74), เทิดศักดิ์ ใจมั่น, พิภพ อ่อนโม้ (อัครวินท์ สวัสดี น.33), ลูโดวิค ทาคาม
เทรนเนอร์ : วิทยา เลาหกุล
ผู้ตัดสิน : อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์