ดราม่าท้ายเกม!วัตฟอร์ดยิงชัยน. 97 อัดจิ้งจอก 3-1 ลิ่วชิงดำฯ
เกมเพลย์ออฟสุดมันส์มาเกิดดราม่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเมื่อเลสเตอร์พลาดจุดโทษสำคัญโดยไปติดเซฟของอัลมูเนียก่อนที่ดีนี่ย์จะรับบทโคตรฮีโร่ตะบันประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 7 ส่งวัตฟอร์ดชนะ 3-1 พร้อมเข้าไปชิงดำแชมเปี้ยนชิพด้วยสกอร์รวม 3-2
แชมเปี้ยนชิพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2556
วัตฟอร์ด 3-1 เลสเตอร์ ซิตี้
(วัตฟอร์ดผ่านเข้าไปชิงดำด้วยสกอร์รวม 3-2)
สนาม : วิคาเรจ โร้ด
ประตู : 1-0 มาเทจ วีดร้า น. 15, เดวิด นูเจ้นท์ น. 20, 2-1 มาเทจ วีดร้า น. 65, 3-1 ทรอย ดีนี่ย์ น. 90+7
ครึ่งแรก
เริ่มเกมช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองที่ก็เปิดแลกกันสนุกเลยโดยเลสเตอร์มีจังหวะหวาดเสียวก่อนเมื่อน็อคเคิร์ตเปิดบอลได้เสียเข้ามาหน้าปากประตูแต่จังหวะยิงของนูเจ้นท์ยังโดนสกัดออกหลังไปได้
ถัดมาจากนั้นไม่นานโจเอล เอิคสตรานด์ของเจ้าบ้านต้องสกัดลูกยิงของเดอ เลตออกจากเส้นประตูแบบฉิวเฉียดโดยดูเหมือนบอลจะไปโดนมือด้วยซ้ำขณะที่วัตฟอร์ดก็ตอบโต้จากลูกยิงไกล 20 หลาของดีนี่ย์แต่ชไมเคิ่ลยังเซฟเอาไว้ได้เหมือนกัน
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 15 เจ้าบ้านมาได้ประตูที่ต้องการจากจังหวะที่วีดร้าซึ่งโดนกองหลังประกบอยู่พักบอลลงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วตะบันด้วยซ้ายทันทีบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
แต่หลังจากเสียประตูไปเพียง 5 นาทีเลสเตอร์ก็ตามตีเสมอได้จากฮีโร่คนเดิมเมื่อนูเจ้นท์กระโดดขึ้นโขกลูกเตะมุมทางเสาไกลบริเวณกรอบ 6 หลาเข้าไปตุงตาข่ายทำให้ตอนนี้พวกเขากลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
นาทีที่ 30 โอกาสของเจ้าบ้านมาอีกครั้งจากจังหวะส่องด้วยขวาของดีนี่ย์นอกกรอบเขตโทษแต่ชไมเคิ่ลยังโชว์ความเนียวเซฟเอาไว้
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีดีนี่ย์คนเดิมมีโอกาสทองเมื่อได้บอลในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่เขากลับยิงเต็มแรงทำให้บอลโด่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ครึ่งหลัง
เปิดเกมครึ่งหลังน็อคเคิร์ตมีโอกาสได้ยิงฟรีคิกหน้าปากเขตโทษโดยเข้าวิ่งมาส่องด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่ก็สูงเกินไปลอยโด่งข้ามคานไม่มีลุ้น
วัตฟอร์ดพยายามบุกขึ้นหน้าแต่ก็ยังลำเลียงบอลไปไม่ถึงเขตโทษของเลสเตอร์มากเท่าไหร่ทำให้ชาโลบาห์ต้องลองยิงไกลกว่า 35 หลาซึ่งผลออกมาก็คือบอลไม่ตรงกรอบ
มาถึงนาทีที่ 65 "แตนอาละวาด"ก็ได้ประตูสุดสำคัญเมื่อวีดร้าทำชิ่งหนึ่งสองกับดีนี่ย์ก่อนที่จะหลุดเข้าไปยิงผ่านมือของชไมเคิ่ลอย่างสวยงามทำให้ตอนนี้สกอร์รวมกลับมาเท่ากันอีกครั้ง
เจ้าบ้านยังเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่องทำให้ชไมเคิ่ลต้องงัดเซฟออกมาโชว์อีกเมื่อแบตตอชโช่ขอลองยิงไกลนอกกรอบดูบ้างแต่บอลไม่ผ่านมือจอมหนึบเดนมาร์ก
ก่อนเข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายวัตฟอร์ดเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดและมาได้ลุ้นอีกจากจังหวะเตะมุมที่อับดี้เปิดเข้ามาเข้าหัวของคาสเซ็ตติที่เบียดกองหลังขึ้นโขกได้แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ
แฟนเจ้าบ้านได้เฮกันเก้อเมื่อดีนี่ย์ยิงบอลผ่านมือของชไมเคิ่ลเข้าไปแล้วแต่ไลน์แมนยกธงขึ้นมาบอกว่าล้ำหน้าซึ่งก็เป็นการออฟไซด์ไม่ผิดพลาดจริงๆ
และแล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็เกิดดราม่าขึ้นจนได้เมื่อเลสเตอร์น่าจะได้ผ่านเข้ารอบไปแต่น็อตเคิร์สกลับยิงจุดโทษพลาดไปกลางประตูทำให้โดนอัลมูเนียเซฟออกมาได้แถมจังหวะตามซ้ำก็ไม่ผ่านมือกาวสแปนิชอีก
ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อช่วงทดเวลาล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 7 วัตฟอร์ดได้ประตูชัยเด็ดขาดสุดเหลือเชื่อจากจังหวะที่ดีนี่ย์หลุดเข้าไปตะบันประตูที่ต้องการโดยเขาออกอาการดีใจฉ๊กเสื้อทิ้งพร้อมกับแฟนบอล"แตนอาละวาด"ที่แห่ลงมาดีใจในสนามเพราะได้ผ่านเข้าไปเล่นในเกมชิงดำที่เวมบลีย์แล้ว
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
วัตฟอร์ด : มานูเอล อัลมูเนีย, ลอยด์ ดอยลี่ย์ ( เฟอร์นานโด ฟอเรสติเอรี่ น. 65), แม็ทธิว บริกก์ส, มาร์โค คาสเซ็ตติ , นาธาเนี่ยล ชาโลบาห์, โจเอล เอ็คสตรานด์, อีเคชิ อันยะ, อัลเมน อับดี้, คริสเตียน แบตตอชโช่ ( โจนาธาน ฮ็อกก์ น. 79), ทรอย ดีนี่ย์, มาเทจ วีดร้า
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โจนาธาน บอนด์, ฟิตซ์ ฮอลล์, ดาเนี่ยล พูดิล, จอห์น ยูสเตซ, อเล็กซานเดร เกโจ้
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ริตชี่ เดอ เลต, เวส มอร์แกน, ไมเคิ่ล คีน, แอนดี้ คิง, ลอยด์ ดายเออร์ (ดาเนี่ยล ดริ้งวอเตอร์ น. 66), แม็ทธิว เจมส์, อองโตนี่ น็อคเคิร์ต, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์, เดวิด นูเจ้นท์ , คริส วู้ด (แฮร์รี่ คีน น. 61)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คอนราด โลแกน, พอล คอนเชสกี้, เลียม มัวร์, เบน มาร์แชล, เจมี่ วาร์ดี้