10 นาทีโด้แฮตทริก!มาดริดเหมายิงครึ่งหลังถล่มเคตาเฟ่ 4-0
เซร์คิโอ รามอสซัดประตูเบิกร่องให้ทีมก่อนที่โรนัลโด้จะใช้เวลา 10 นาทียิงคนเดียว 3 ตุงส่งให้"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริดไล่โขยกเคตาเฟ่มันส์เท้า 4-0 เก็บเพิ่มอีก 3 แต้มไล่จี้แอตเลติโก มาดริดเหลือ 4 แต้มแต่ยังห่างจากบาร์เซโลน่าถึง 12 คะแนน
ลา ลีกา
วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2556
เรอัล มาดริด 4-0 เคตาเฟ่
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ประตู : 1-0 เซร์คิโอ รามอส น. 53, 2-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น. 62, 3-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น. 65, 4-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น. 72 (จุดโทษ)
คลิปไฮไลท์ ลาลีกา เรอัล มาดริด 4-0 เคตาเฟ่
มาริดเพิ่งโชว์โหดบุกไปถล่ม"ค้างคาว"บาเลนเซียไม่ไว้หน้า 5-0 ในเกมก่อนแต่แมตช์นี้โจเซ่ มูรินโญ่ตัดสินใจใช้นักเตะสำรองคุมเกมรับเป็นส่วนใหญ่
ผู้รักษาประตูเป็นหน้าที่ของอันโตนิโอ อาดานที่ลงมาแทนอีเคร์ คาซีญาสที่ได้รับบาดเจ็บยาวส่วนดีเอโก้ โลเปซที่เพิ่งย้ายมายังต้องรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน
กองหลังวันนี้คาร์วัลโญ่ได้ลงมาจับคู่กับอัลบิโอนโดยมีรามอสกับโคเอนเตราจับ คู่ซ้ายขวากองกลางมีเอสเซียงได้โอกาสลงสนามมาตัดเกมโดยมีโมดริช, ดิ มาเรียและโรนัลโด้คอยเดินเกมบุกแล้วปล่อยอิกวาดินค้ำหน้าเอาไว้คนเดียว
ด้านผู้มาเยือนเจอปัญหานักเตะเดี้ยงมากมายทำให้ต้องใช้นักเตะสำรองลงทำ หน้าที่เป็นส่วนใหญ่แถมผลงาน 6 นัดหลังยังสะกิดคำว่าชนะไม่เจออีกต่างหาก
แผงหลังมีโปโลจับเซ็นเตอร์กับอเล็กซิสโดยมีซาบี ตอร์เรสกับบอร์ฆ่าปักหลักตัดบอลตรงกลางสนามให้ดีเอโก้ คาสโตรทำเกมบุกส่วนคอลุนก้าปักหลักล่าตาข่าย
ครึ่งแรก
โด้ชิมลางซัดฟรีคิกโมญ่าเซฟ
นาทีที่ 10 โรนัลโด้มีโอกาสส่องฟรีคิกระยะไกล 30 หลาหน้ากรอบเขตโทษด้านชวาซึ่งเจ้าตัวยิงแรงผ่านกำแพงบอลมุดไปที่เสาแรกทว่า โมญ่ายังพุ่งมาเซฟเอาไว้ได้
เคตาเฟ่รอดตัวบอลแฉลบไม่ตรงกรอบ
เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกรอบในจังหวะที่ดิ มาเรียลองส่องไกล 30 หลาด้วยซ้ายข้างถนัดบอลไปโดนบล็อคของกองหลังทีมเยือนก่อนเปลี่ยนทางไปทางเสา ไกลดีที่เฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเพราะโมญ่าหลงทางไปแล้ว
โมญ่างานชุก...โด้ซัดเปรี้ยงยังไม่ตุงตาข่าย
มาดริดน่าได้ประตูสุดๆในนาทีที่ 21 เมื่อโมดริชแทงทะลุช่องไปให้โรนัลโด้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะ ล็อคหนึ่งจังหวะแล้วยิงเต็มข้อแต่บอลไปตรงตัวของโมญ่าที่ทุบออกมาได้แล้วยืน รอรับบอลที่กองหลังโหม่งกลับมาอีกทีหนึ่งรอดพ้นการเสียประตูไป
เคตาเฟ่ก็มี...ซาราเบียตะบันเข้าซองอาดาน
โอกาสยิงครั้งแรกของทีมเยือนเกิดขึ้นในนาทีที่ 24 เมื่อซาราเบียได้บอลยึกยักอยู่หน้าปากประตูก่อนยิงบดๆ บอลเข้ามุมประตูเสาแรกแต่อาดานยังผวาไปรับเอาไว้ไม่พลาด
คาสโตรพุ่งโขกอย่างสวย
มาดริดจะโดนยิงอีกครั้งเมื่อดีเอโก้ คาสโตรพยายามฉวยโอกาสพุ่งโขกจากการสกัดบอลไม่ดีของโคเอนเตราจากระยะราว 10 หลาโชคยังดีที่อาดานปักหลักอยู่ตรงนั้นรับเข้าซองเอาไว้ได้
ทำสวย...โอซิลได้จบติดโมญ่าอีก
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงมาดริดขึ้นเกมอย่างสวยในจังหวะโต้กลับเริ่มจากโอซิลลาก บอลมากลางสนามก่อนแทงไปด้านซ้ายให้โรนัลโด้ไหลต่อไปถึงอิกวาอินในกรอบเขตโทษ ด้านซ้ายโดยดาวยิงอาร์เจนไตน์ตวัดกลับมาให้โอซิลได้ยิงตรงจุดโทษพอดิบพอดี แต่อนิจจาบอลยังไปตรงตัวของโมญ่าเหมือนมีแม่เหล็กมาดูดเอาไว้
โมดริชวอลเล่ย์ข้ามคานไม่ถึงคืบ
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีมาดริดโหมบุกขึ้นมาอีกครั้งและเป็นโคเอนเตราที่แตะไปให้โมดริชพักอกก่อน หนึ่งจังหวะแล้วเอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้ายชนิดเต็มข้อทว่าบอลแรงเหิน ข้ามคานออกไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ครึ่งหลัง
เคตาเฟ่เริ่มเปิดเกมบุก
เริ่มเกมครึ่งหลังมาผลัดกันแลกสนุกทีเดียวโดยเคตาเฟ่มีโอกาสจากจังหวะขึ้น เกมมาทางริมเส้นด้านซ้ายซึ่งจังหวะสุดท้ายคาสโตรลากบอลไปยิงตรงสุดเส้นหลัง แต่โคเอนเตราตามมาบล็อคออกหลังไป
โคตรเวฟ...โมญ่าบินปัด 2 ลูกติด
มาดริดน่าจะได้ขึ้นนำแบบสุดๆแล้วเมื่อเคดิร่าตะบันไกลกว่า 30 หลาโมญ่าบินไปปัดเอาไว้ได้ก่อนแต่ตรงนั้นมีโคเอนเตราตามปรี่เข้ามาซ้ำโมญ่า ก็ยังตามไปเซฟเอาไว้ได้อีกแบบสุดเหลือเชื่อ
พลาดจนได้...โมญ่ารับหลุดรามอสจิ้มตุงเลย
เซฟมาตลอดแต่โมญ่ากลับมาพลาดลูกง่ายๆในจังหวะเตะมุมนาทีที่ 53 เมื่อเขาออกมาปะทะกับคาร์วัลโญ่ทำให้บอลหลุดมือไปตกอยู่หน้ารามอสที่บรรจง จิ้มบอลไปตุงตาข่ายไม่เหลือซาก
อิกวาไร้คมโหม่งโล่งๆออกเฉย
นาทีที่ 58 โอซิลได้บอลหลุดเดี่ยวมานอกเขตโทษด้านซ้ายก่อนตักไปให้อิกวาอินที่ยืนโล่ง อยู่หน้าปากประตูทว่าหัวหอกอาร์เจนไตน์กลับโหม่งไม่ตรงกรอบแบบน่าเสียดาย
เขื่อนพัง...โด้กระทุ้งมาดริดนำห่าง
มาดริดมาขึ้นนำ 2-0 จนได้ในนาทีที่ 62 เมื่อโอซิลได้บอลจังหวะโต้กลับวิ่งขึ้นมาคู่กับโรนัลโด้ก่อนจ่ายให้ปีกจอม ถล่มตาข่ายหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งเมื่อบอลมาแบบนี้โรนัลโด้ก็ ไม่พลาดปาดบอลไปเข้าหน้าต่ายเสาไกลหมดปัญญาที่โมญ่าจะเซฟ
ไหลมาเทมา...โด้โขกอีกนำห่าง 3-0
ทำท่าจะหบุดไม่อยู่แล้วสำหรับเคตาเฟ่เมื่อพวกเขามาเสียประตูที่ 3 จนได้จากจังหวะทำชิ่งสวยของโอซิล-ดิมาเรียและโรนัลโด้ก่อนที่ดิ มาเรียจะชิพบอลไปตรงเสาไกลให้"เจ็ทโด้"พุ่งโขกกดลงพื้นโล่งๆไม่เหลือซากใน นาทีที่ 65
รามอสเคลียร์จากเส้น...เคตาเฟ่อดตีไข่แตก
ถัดมานาทีเดียวเคตาเฟ่เกือบได้บ้างเมื่อคาสโตรได้ยิงนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งไป ตรงสามเหลี่ยมเสาซ้ายมือแล้วทว่ารามอสยังกระโดดโหม่งสุดตัวเคลียร์ทิ้งออกไป
โด้แฮตทริก!ซัดโทษมาดริดทิ้งขาด
มาถึงนาทีที่ 72 เคตาเฟ่มาเสียจุดโทษในจังหวะที่เคดิร่าโยนบอลไปให้โมดริชหน้าประตูทว่าเขา กลับโดนโลโปมากระแทกจากด้านหลังกรรมการเป่าเป็นลูกฟาวล์ทันที
โรนัลโด้รับหน้าที่สังหารไม่พลาดยิงบอลเลียดไปทางซ้ายมือของตัวเองแม้โมญ่าจะพุ่งถึงแต่ก็ไม่ทันทำให้มาดริดนำห่าง 4-0
ราชันปิดกล่อง 2 นัดถล่ม 9 ประตู
ก่อนหมดเวลา 1 นาทีมาดริดเกือบได้อีกหนึ่งประตูจากฟรีคิกกลางประตูของดิ มาเรียแต่เขากลับปั่นอ้อมกำแพงไปไม่ไกลตัวของโมญ่าที่ทุบบอลออกหลังไปก่อนจบ เกมที่มาดริดคว้า 3 แต้มได้สำเร็จแถมยังทำได้ถึง 9 ประตูจาก 2 เกมล่าสุดอีกทั้งยังไม่เสียความบริสุทธิ์ด้วยก่อนที่จะเจอกับบาร์เซโลน่าใน เกมโกปา เดล เรย์รอบรองชนะเลิศกลางสัปดาห์นี้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
เรอัล มาดริด : อันโตนิโอ อาดาน 6, เซร์คิโอ รามอส 8 , ฟาบิโอ โคเอนเตรา 7, ราอูล อัลบิโอน 5 (ซามี่ เคดิร่า 7 น. 46), ลูก้า โมดริช 6, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 6, มิเคล เอสเซียง 6, เมซุต โอซิล 8 (โฆเซ่ กาเญฆ่อน 6 น. 69), อังเคล ดิ มาเรีย 7, คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 9 (คาริม เบนเซม่า 6 น. 72), กอนซาโล่ อิกวาอิน 5
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ดีเอโก้ โลเปซ, ราฟาเอล วาราน, มาร์เซโล่, ซาบี อลอนโซ่,
เคตาเฟ่ : มิเกล โมญ่า 7 , อเล็กซิส 6, มิเกล ตอร์เรส 5 , บาเลร่า 6, บอร์ฆ่า 5, อัลเบร์โต้ โลโป 5 , ซาราเบีย 6 , ดีเอโก้ คาสโตร 6 , ซาบี ตอร์เรส 5 (มิเชล 6 น. 69), ไฆเม่ กาบิลัน 4 , อาเดรียน คอลุนก้า 6 (อัลบาโร่ บาสเกซ 6 น. 76)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ฆอร์ดี้ คอดิน่า, ราฟา โลเปซ, ฮูโก้ ไฟรเล่, ดีเอโก้ เบนิโต้, ปาโก้ อัลคาเซร์