ข่าว 5 เรื่องควรรู้ !!! หลังเกม ราชันชุดขาว เปิดบ้านพ่าย ยูเว่ 1-3 ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 12 เม.ย. 2018

ไม่ได้หมายความว่า นายทวารทั้งสองทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่นี่คือเกมที่ประเด็นของผู้รักษาประตูถูกพูดถึงมากที่สุดเกมหนึ่ง

จิอันลุยจิ บุฟฟอน ผู้รักษาประตูและกัปตันจอมเก๋าของ ทัพม้าลาย ซึ่งนัดนี้เกือบจะสามารถพาลูกทีมสร้างประวัติศาสตร์เหมือนกับที่ โรมา ทำไว้คืนก่อนหน้านี้ แต่กลายเป็นว่า นี่คือเกมที่ผู้รักษาประตูวัย 40 ปีจะไม่มีวันลืม จากการที่เขาถูกใบแดงหลังไปประท้วงผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์ ชาวอังกฤษ ซึ่งนับเป็นการถูกไล่ออกครั้งแรกของเขาในการลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก 117 นัด และอาจเป็นการปิดฉากการลงเล่นในฟุตบอลรายการนี้อย่างไม่สวนงามนักไปเลยก็ได้ 

ส่วนนายประตูของอีกฝั่งอย่าง เคเลอร์ นาบาส ซึ่งไม่ได้มีฟอร์มที่ดีเท่าใดนักในคืนที่ผ่านมา การเสียสามประตูในเกมเดียวอาจเกิดขึ้นได้ แต่ในรายละเอียดแล้ว นาบาส ต้องรับผิดชอบในลูกที่สองที่มีปฏิกิริยาช้าเกินไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประตูที่สาม ที่เจ้าตัวรับบอลพลาด ทำซองแตก จน แบลส มาตุยดี้ เข้ามายิงจ่อ ๆ ทำให้ทีมเยือนกลับมามีความหวังอีกครั้ง 

นัดนี้ถือได้ว่าเป็นเกมที่ ยูเวนตุส โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมนัดหนึ่งก็ว่าได้ จากการวางแผนการเล่นของผู้จัดการทีม มัสซิมิลิอาโน อัลเลกรี โดยสามารถเปิดจุดออ่อนของ ราชัน ชุดขาว และโจมตีอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กลับมามีลุ้น

อัลเลกรี กล้าเปลี่ยนแท็คติกให้กับทีมและกล้าตัดสินใจในสิ่งที่คาดไม่ถึง เห็นได้จากการที่ ม้าลาย ออกนำ ราชันชุดขาว ตั้งแต่ 74 วินาทีแรกของเกม ทั้ง ๆ ที่เป็นทีมเยือน

น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถพาทีมสร้างประวัติศาสตร์เหมือนที่ โรมา ทำไว้ได้ แต่ชัยชนะนัดนี้ก็ทำให้เห็นว่า อัลเลกรี มีดีขนาดไหน 

ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามนัดนี้ เบนเซมา ได้แค่นั่งบนม้านั่งสำรองจนจบเกม การที่ไร้กองหน้าชาวฝรั่งเศสในสนาม ทำให้ คริสเตียโน โรนัลโด ต้องเล่นอย่างโดดเดี่ยวบ่อยครั้งในแดนหน้า รวมทั้ง แกเร็ธ เบล, มาเซโล และ อิสโก้ ก็มีปัญหาในการลำเลียงบอลในเกมรุกและการเข้าทำในกรอบเขตโทษเช่นเดียวกัน

การขาดหายไปของอดีตศูนย์หน้าลียง ทำให้ โรนัลโด้ ไม่มีคู่ขาในการจบสกอร์ ดูเหมือนว่า เบนเซมา จะเป็นจิ๊กซอว์ที่สร้างความอันตรายในบริเวณกรอบเขตโทษของฝั่งตรงข้ามได้ แต่กลายเป็นว่า เรอัล มาดริด เปิดโอกาสให้ ยูเวนตุส สามารถทำเกมรุกขึ้นมาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพะวงกับเกมรับ จนทำให้พวกเขาทำได้ถึง 3 ประตูในนัดนี้

มาริโอ มานด์ซูคิช เคยทำประตูสุดสวยในเกมยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด เมื่อปีที่แล้ว และเกมนี้แม้ทีมของเขาจะสามารถแก้แค้นได้ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบต่อไป

ในเลกแรก มานด์ซูคิช มีปัญหาเรื่องความฟิต จึงทำได้แค่การลงมาเป็นตัวสำรองหลังจากเกมขาดไปแล้ว แต่กับนัดนี้ เขาเกือบจะเป็นคนตัดสินเกมและเกือบจะเป็นฮีโร่ จากการทำคนเดียว 2 ประตูให้ทีมม้าลาย 

กองหน้าของ ยูเวนตุส ขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังและการเล่นลูกกลางอากาศที่แข็งแกร่ง เขาสามารถทำลายแนวรับของทีมราชันชุดขาวได้อย่างราบคาบ ตอบสนองแท็คติกของผู้จัดการทีมได้เป็นอย่างดี แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ดีพอที่จะพาทีมเข้าสู่รอบต่อไป

เกมนี้อาจจะไม่ใช่เกมที่ดีของ คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่นี่เป็นอีกครั้งที่เขาสามารถทำประตูใน แชมเปี้ยนส์ลีก และทำสถิติยิงประตูติดต่อกัน 11 นัดในรายการนี้

ศูนย์หน้าชาว โปรตุกีส ถูกจับตายโดย จอร์โจ คิเอลลินี และ เมห์ดี เบนาเตีย ดูเหมือนว่าเขาจะถูกขัดขวางการทำประตูอยู่ตลอดเวลา ครึ่งแรกจึงดูเงียบหายไปจากเกม จนกระทั่งในนาทีสุดท้าย

สตาร์แดน ฝอนทอง มีส่วนร่วมในการได้จุดโทษของ มาดริด โดยเป็นคนโหม่งชงเข้ามาบริเวณกรอบหกหลาให้ ลูคัส บาสเกวซ เข้ามาชาร์จ แต่ก็ถูกทำฟาล์วจากด้านหลังโดนผู้เล่น ยูเวนตุส กลายเป็นจุดโทษและทำให้ บุฟฟอน สติแตกประท้วงผู้ตัดสินจนถูกไล่ออก 

ประตูจากจุดโทษของเขาในนัดนี้ ส่งผลให้เจ้าตัวทำสถิติยิงไปแล้ว 15 ประตูใน แชมเปี้ยนส์ลีก และทำประตูรวมในรายการนี้นับตั้งแต่ลงเล่นมา ได้ทั้งหมด 120 ประตู ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาล และยังมีโอกาสสร้างสถิติได้ต่อไป