Mission completed!เฮนโด้นำชัย 1-0 หงส์ลิ่วแชมป์กลุ่ม
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มยูโรป้า ลีกสุดสวยด้วยตำแหน่งที่หนึ่งหลังบุกเอาชนะอูดิเนเซ่ที่เหลือ 10 ตัวท้ายเกมจากประตูชัยชัยของจอร์แดน เฮนเดอร์สันก่อนกอดคอกับอันจิเข้ารอบน็อกเอาท์เฮฮากันไป
ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ
วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2555
อูดิเนเซ่ 0-1 ลิเวอร์พูล
สนาม :
ประตู : 0-1 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 23
คลิปไฮไลท์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก อูดิเนเซ่ 0-1 ลิเวอร์พูล
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลหวังเก็บ 3 แต้มให้ได้เท่านั้นก็จะได้ผ่านเข้ารอบแบบไม่ต้องไปลุ้นผลอีกคู่หนึ่งทำให้ รอดเจอร์สจัดทัพใหญ่ลงสนามทันทีขาดแค่เจอร์ราร์ดกับแอกเกอร์ 2 แกนหลักเท่านั้น
เปเป้ เรน่าได้ลงเฝ้าเสาเหมือนเคยโดยให้เจมี่ คาร์ราเกอร์ลงมาแทนตำแหน่งของแอกเกอร์เคียงข้างกับสเคอร์เทลส่วนแบ็ค 2 ข้างมีเอ็นริเก้กับจอห์นสันประจำตำแหน่ง
แดนกลางมีนูริ ซาฮินได้กลับมาลงสนามคู่กับอัลเลนและเฮนเดอร์สันตรงกลางสนามมีซูโซ่กับดาวนิ่งทำเกมริมเส้นให้ซัวเรซคอยทะลวงประตู
ด้านเจ้าถิ่นอูดิเนเซ่ตกรอบไปแน่นอนแล้วทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเน้นอะไร โดยพวกเขาดร๊อปอันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ดาวยิงตัวเก่งไว้ข้างสนามปล่อยให้ดีเอโก้ แฟบบรินี่กับโรแบร์โต้ เปเรยร่าล่าตาข่าย
ครึ่งแรก
ซาฮินเดี้ยงแต่หัววัน
เริ่มเกมขึ้นมา 10 นาทีแรกทั้ง 2 ทีมยังครองบอลบุกใส่กันแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่สามารถหาช่องเจาะตาข่ายกันได้ มากนักแต่เมื่อมาถึงนาทีที่ 12 "หงส์แดง"ต้องเปลี่ยนตัวเร็วเพราะซาฮินมีอาการเจ็บเหมือนจมูกแตกจากจังหวะ ปะทะในช่วงต้นเกมจนต้องส่งเชลวี่ย์ลงสนามมาแทน
ผลัดกันส่องคนละที
มาถึงนาทีที่ 15 ซูโซ่ลากบอลตัดเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนง้างยิงด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลไปติดเซฟของปาเดลลี่
นาทีถัดมาเป็นเจ้าถิ่นได้โต้กลับเร็วมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนได้เปิดบอล เข้ามาให้ราเนกี้ได้โขกตรงกลางประตูแต่โดนบางไปทำให้บอลเลยออกเสาสอง
เฮนโด้เบิกร่องหงส์ทะยานนำ
มาถึงนาทีที่ 23 ลิเวอร์พูลได้ประตูที่ต้องการจนได้ในจังหวะที่ดาวนิ่งเปิดลูกเตะมุมมาให้ซัว เรซได้โหม่งต่อไปให้ซูโซ่ตรงเสาสองก่อนส่งคืนกลับมาให้เฮนเดอร์สันวิ่งเข้า มายิงนิ่มๆในกรอบเขตโทษด้านขวาบอลพุ่งเข้าไปทางเสาแรกเป็นประตูนำให้ทีมและ ประตูแรกของเขาในฤดูกาลนี้ด้วย
แฟบบรินี่ลากเดี่ยวยิงติดเรน่า
เกมล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 34 แฟบบรินี่มีจังหวะลากเบียกกับอัลเลนตั้งแต่กลางสนามเข้าไปล็อคหลอก คาร์ราเกอร์หนึ่งจังหวะก่อนสับไกด้วยขวาระยะกว่า 25 หลาแต่ยังไม่ผ่านเรน่าที่้ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้
อาเบะลากสุดเส้น"หม่อมเหยิน"ชาร์จไม่ทัน
"หงส์แดง"มีลุ้นอีกครั้งในจังหวะที่เอ็นริเก้ได้ลากบอลไถจนสุดเส้นหลังฝั่ง ซ้ายก่อนตบเข้ามากลางหมายจะให้ซัวเรซเข้าชาร์จแต่ปาเดลลี่ยังออกมาตัดเอาไว้ ได้หวุดหวิด
ซัวเรซตีลังกายิงสุดสวย
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีซัวเรซได้โอกาสยิงเต็มข้อในจังหวะที่ซูโซ่แทงบอลทะลุช่องมาให้เขาในกรอบ เขตโทษด้านขวาแต่คุมบอลไม่ดีทำให้บอลไม่เข้ากรอบ
ในช่วงนาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุมก่นที่จะเปิดเข้ามากลางสนามให้ซัว เรซเบียดกับกองหลังเจ้าถิ่นกระเด็นไปก่อนมีโอกาสจักรยานอากาศซัดบอลเต็มๆแต่ ไปตรงตัวของปาเดลลี่ที่ปัดออกหลังไปได้นิดเดียวไม่งั้นเสียบคานไปแล้ว
ครึ่งหลัง
มันน่านัก...ซูโซ่หลุดเดี่ยวยิงออกเฉย
เริ่มเกมมาเพียง 2 นาทีซัวเรซพยายามลากบอลมาตรงกลางประตูก่อนถวายพานไปให้ซูโซ่หลุดเดี่ยวเข้า ไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่กลับยิงไม่ดีบอลปลิ้นหลังเท้าขวาออกไปแบบไม่ได้ ลุ้น
ถัดมาอีกนิดเดียวดาวนิ่งได้เติมขึ้นมาริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางกอง หลังเจ้าถิ่นเคลียร์ออกมาไม่ขาดซัวเรซวิ่งเข้ามาสับตูมเดียวนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่หลุดคานไปนิดเดียวเท่านั้น
เฮนโด้ยิงอีก...ยังไม่ได้
นาทีที่ 65 เฮนเดอร์สันเกือบบวกประตูที่ 2 ของตัวเองได้เมื่อวิ่งสอดเข้ามาตรงกลางประตูก่อนได้ยิงเต็มๆแต่กลับไปตรงตัว ของปาเดลลี่ที่ปัดทิ้งไปได้อีกครั้ง
ปาเดลลี่โคตรเซฟหงส์ยังไม่ทิ้ง
อะไรกันงานนี้....ซัวเรซได้บอลล็อคหนีกองหลังเจ้าถิ่นไปหมดแล้วได้ล่อเป้าปา เดลลี่โล่งๆหน้าปากประตูแต่ดาวยิงอุรุกวัยดันยิงไปติดเซฟเสียอย่างนั้นได้ เพียงแค่ลูกเตะมุม
ปาสกวาเล่โดนแดง...เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน
นาทีที่ 79 อูดิเนเซ่มาเหลือเพียง 10 คนจนได้เมื่อปาสกวาเล่มาได้ใบเหลืองที่ 2 จากจังหวะเข้าบอลทะเล่อทะล่าใส่สเตอร์ลิ่งที่พลิกบอลไปได้แล้วจนทำให้โดน ตะเพิดออกจากสนามไปก่อนเพื่อน
หงส์มีหนาวน้าเล่ลงสนาม
แผงหลัง"หงส์แดง"ต้องระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิมอีกโขเมื่อฟรานเชสโก้ กุยโดลินส่งไม้เด็ดอย่างอันโตนิโอ ดิ นาตาเลลงสนามมาหวังทวงประตูตีเสมอในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
ตัวแสบ!ดินาตาเล่ซัดเต็มตีน...หงส์เกือบร่วง
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายอูดิเนเซ่เกือบทำฝันของทีมเยือนล่มสลายเมื่อ ดิ นาตาเล่ที่เพิ่งได้ลงสนามมาเกือบโชว์ทีเด็ดกระหน่ำยิงเต็มๆตีนบอลผ่านเรน่า ไปแล้วแต่กลับเหินข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
แต่จนแล้วจนรอด"หงส์แดง"ก็สามารถรักษาสกอร์ไว้ได้พร้อมกับกอดคออันจิผ่าน เข้าไปเล่นในรอบ 32 ทีมสุดท้ายแม้ทีมจากรัสเซียจะโดนยัง บอยส์ถล่ม 3-1 ในเกมสั่งลาก็ตาม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อูดิเนเซ่ : ดานิเอเล่ ปาเดลลี่ 7, ดานิโล่ 5, มาร์โค ฟาราโอนี่ 5, โจวานนี่ ปาสกวาเล่ 4 , ปาโบล อาร์เมโร่ 6, โธมัส เฮอร์โตซ์ 5, เอ็มมานูเอล บาดู 4 , จามปิเอโร่ ปินซี่ 4 (เมห์ดี้ เบนาเตีย 5 น. 46) ( แม็กซ์ เรนธาเลอร์ น. 64), แมธ ราเนกี้ 5 (อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ 6 น. 85), ดีเอโก้ แฟบบรินี่ 5 , โรแบร์โต้ เปเรยร่า 6
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เซลจ์โก้ เบอร์คิช, ฟิลิปโป้ เบอร์ร่า, ดาวิเด้ มาร์ซูร่า, มาร์โค ฟริสัน
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า 6, เกล็น จอห์นสัน 7, โฆเซ่ เอ็นริเก้ 8, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6 , มาร์ติน สเคอร์เทล 8,นูริ ซาฮิน 5 (จอนโจ้ เชลวี่ย์ 6 น. 12), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7 , สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง 5, โจ อัลเลน 7 , หลุยส์ ซัวเรซ 7, ซูโซ่ 6 (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 6 น. 71)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด โจนส์, เซบาสเตียน โคอาเตส, อันเดร วิสดอม, โจ โคล, อุสซามะ อัสไซดี้