ปอสติก้าซัดโทน!ฝอยทองล้มหมีขาวแซงนำฝูง
โปรตุเกสปิดจ๊อบในบ้านเฉือนชนะรัสเซียหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยตั้งแต่นาที 9 ของเฮลแดร์ ปอสติก้า ส่งให้ทัพ"ฝอยทอง"ขยับไปยึดบัลลังค์จ่าฝูงกลุ่มเอฟโดยทิ้งห่างอันดับสองอย่าง"หมีขาว" 2 คะแนนแต่แข่งมากกว่า 2 นัด
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป
วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2556
โปรตุเกส 1 : 0 รัสเซีย
สนาม : ดา ลุซ
ประตู : 1-0 เฮลแดร์ ปอสติก้า น.9
คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โปรตุเกส 1-0 รัสเซีย
โปรตุเกสต้องปรับแนวรับกันใหม่หลังเปเป้ติดโทษแบน เลยส่งหลุยส์ เนโต้มายืนเซ็นเตอร์แบ็คคู่กับบรูโน่ อัลเวส ส่วนในแดนกลางเจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่และราอูล เมยเรเรสยังเป็นสามประสาน อย่างไรก็ตามในแนวรุกหลุยส์ นานี่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เปิดพื้นที่ให้เวียรินญ่าลงวาดลวดลาย
รัสเซียยังเมินสามตัวเก่าอย่างอังเดร อาร์ชาวิน, พาเวล โพเกร็บเนี้ยคและโรมัน พาฟลิวเชนโก้ แต่เกมนี้คู่เซ็นเตอร์แบ็คยังใช้บริการของเซอร์เก อิ๊กนาเซวิคและวาซิลี่ เบเรซุทสกี้จับคู่กัน ส่วนแนวรุกดิมิทรี่ คอมบารอฟได้โอกาสก่อนอลัน ซาโกเยฟ มีอเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟเป็นหน้าเป้า
ครึ่งแรก
ออกสตาร์ทมาถึงนาที 9 โรนัลโด้เรียกฟาวล์ได้ที่ริมเส้นด้านซ้ายก่อนปล่อยให้เวโลโซ่เปิดฟรีคิกเข้าไปให้ปอสติก้ากระโดดดีดระยะประชิดผ่านอคินเฟเยฟเข้าตุงตาข่ายให้โปรตุเกสออกนำ 1-0
ถึงนาที 21 ผู้เล่นโปรตุเกสร้องหาจุดโทษเมื่อโรนัลโด้ลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนถูกอันยูคอฟขวางเส้นทางการวิ่งแต่ผุ้ตัดสินกลับไม่ได้ว่าอะไรและยกให้เป็นลูกเตะจากประตูของผู้มาเยือน
นาทีถัดมาโรนัลโด้หวังแก้ตัวด้วยการกระชากจากริมเส้นด้านซ้ายตัดเข้าในมาส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษทว่าปอสติก้าดันวิ่งไปจ้ะเอ๋กับเส้นทางที่บอลพุ่งไปพอดีเลยกลายเป็นไปช่วยบล็อคให้รัสเซียเฉย
เกมผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงยังเป็นเจ้าบ้านที่บุกต่อเนื่องโดยเวียรินญ่าลากบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนเปิดไปให้โรนัลโด้ที่แถวยิงจุดโทษแต่สตาร์เรอัล มาดริดดันส่งบอลข้ามคานไปเฉยเลย
นาที 36 ปาทริซิโอหวิดมอบของขวัญให้รัสเซียเมื่อเขาสกัดลูกโยนเข้ามาไม่ดี บอลลอยไปเข้าทางคอมบารอฟแถวหัวกระโหลกเปิดกลับมาให้กลูชาคอฟได้ยิงในเขตโทษแต่หลุดเสาอย่างน่าเสียดาย
อีกสามนาทีถัดมาทีมเยือนเกือบได้ลูกโทษเมื่อโคเอนเตราไปล้มต้วสไลด์ลูกครอสของเคอร์ชาคอฟซึ่งไปโดนแขนของเขาเต็มๆทว่าผู้ตัดสินคงมองว่าไม่ได้เจตนาเลยยกประโยชน์ให้จำเลยไปทำให้จบครึ่งแรกโปรตุเกสนำรัสเซียอยู่ 1-0 จากการทำประตูของปอสติก้า
ครึ่งหลัง
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ถึงนาที 47 เวียรินญ่าครองบอลที่หัวกระโหลกแล้วไหลออกมาด้านซ้ายให้โรนัลโด้โยกหลอกคอซลอฟจนมีช่องได้ตะบันเต็มข้อพุ่งเลียดหนีมืออคินเฟเยฟถากโคนเสาออกไป
นาทีถัดมาโรนัลโด้ยังมีโอกาสเบิกสกอร์ให้ตัวเองอีกครั้งเมื่อได้ปอสติก้าแทงบอลทะลุช่องให้หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่ก็ยิงไปติดเซฟของอคินเฟเยฟที่ยืนตำแหน่งป้องกันได้ดี
เกมผ่านมาครบชั่วโมงรัสเซียได้โอกาสตอบโต้บ้างเมื่อกลูชาคอฟไหลบอลทะลุช่องให้เคอร์ชาคอฟสปีดหนีอัลเวสเข้าไปซัดมุมแคบทางด้านซ้ายแต่ไม่ผ่านมือของปาทริซิโอ
หลังจากนั้นเจ้าบ้านส่งนานี่ลงมาแทนปอสติก้าและในนาที 69 รัสเซียก็มีจังหวะจบสกอร์อีกครั้งเมื่อกลูชาคอฟโยนบอลจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามาให้บิสตรอฟตีลังกาฟาดข้ามคานแบบได้ลุ้น
นาที 78 บิสตรอฟหลุดเข้าซัดสวนปาทริซิโอตุงตาข่ายแต่ถูกจับล้ำหน้า ขณะที่นาทีถัดมานานี่เปิดบอลจากด้านซ้ายไปติดบล็อกก่อนเก็บตกด้วยการปั่นบอลโค้งหนีมืออคินเฟเยฟหลุดเสาไกล
ก่อนหมดเวลาไม่กี่นาทีมูตินโญ่ไหลบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาให้โรนัลโด้สลกัดหนีเบรุตสกี้เข้าไปกระหน่ำแบบไม่ต้องจบทว่าอคินเฟเยฟยังล้มตัวปัดบอลเอาไว้ได้อีก
ครบ 90 นาทีโปรตุเกสเปิดบ้านอัดรัสเซีย 1-0 ขึ้นไปยึดจ่าฝูงฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มเอฟโดยทิ้งห่างอันดับสองอย่าง"หมีขาว" 2 คะแนนแต่แข่งมากกว่า 2 นัด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โปรตุเกส : รุย ปาทริซิโอ, เจา เปเรยร่า, หลุยส์ เนโต้ , บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา, เจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่ , ราอูล เมยเรเลส (รูเบน อาโมริม น.73), เวียรินญ่า (คัสโตดิโอ น.90), เฮลแดร์ ปอสติก้า (หลุยส์ นานี่ น.66), คริสติอาโน่ โรนัลโด้
สำรองไม่ได้ใช้ : เบโต้, เอดูอาร์โด้, ซิลวิโอ, ริคาร์โด้ คอสต้า, เอ็นริเก้ เซเรโน่, รูเบน มิคาเอล, ซิลแวสตร์ วาเรล่า, ฮูโก้ อัลเมยด้า, แดนนี่
เทรนเนอร์ : เปาโล เบนโต้
รัสเซีย : อีกอร์ อคินเฟเยฟ, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ (อเล็กเซ คอสลอฟ น.32), วาซิลี่ เบเรซุทสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเซวิช, ยูริ เชียร์คอฟ, อีกอร์ เดนิซอฟ, วิคตอร์ ฟายซูลิน (เดนิส กลูชาคอฟ น.21), วลาดิเมียร์ บีสตรอฟ, โรมัน ชิโรคอฟ, ดิมิทรี่ คอมบารอฟ, อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ (เฟดอร์ สโมลอฟ น.67)
สำรองไม่ได้ใช้ : เซอร์เก รีซีคอฟ, วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ, คิริล นาบาบกิ้น, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้, วลาดิเมียร์ กรานาต, อลัน ซาโกเยฟ, อเล็กซานเดร รียาซานต์เซฟ, อเล็กซานเดร ซาเมดอฟ, ดิมิทรี่ ทาราซอฟ
เทรนเนอร์ : ฟาบิโอ คาเปลโล่