ข่าว 5 เรื่องควรรู้ ! หลังเกม สเปอร์ส บุกพ่าย เวสต์บรอมวิช 0-1 พรีเมียร์ลีก 06 พ.ค. 2018

ก่อนหน้านี้ไม่นาน กุนซือหงส์แดง เยอร์เก้น คล็อปป์ เคยออกมาวิจารณ์ เดอะแบ็กกี้ส์ ว่า เวสต์บรอมฯ นั้นเล่นโยนบอลยาวเหมือนทีมใน เดอะแชมเปี้ยนชิพ และปีหน้าคงได้ไปโยนยาวกันใน แชมเปี้ยนชิพ จริง ๆ หลัง ลิเวอร์พูล โดนฤทธิ์โยนยาวของ เดอะแบ็กกี้ส์ ท้ายเกมจนโดนตีเสมอ 2-2 

ต้องยอมรับว่าการเน้นโยนยาวโดยไม่สนใจต่อบอลภาคพื้นนั้นไม่ค่อยน่าดูชมจริง โดยเฉพาะถ้าทีมของคุณมีนักเตะดัง ๆ แจ่ม ๆ อย่าง แฮร์รี เคน, คริสเตียน เอริคเซน หรือ แดนนี โรส คุณจะทำอย่างนั้นไปทำไม แต่ถ้าทีมของคุณต้องการ 3 แต้มเท่านั้น แพ้ไม่ได้ และรู้ว่าทีมของคุณต่อบอลบนพื้นสู่คู่แข่งไม่ได้ คุณจะยังดันทุรังเล่นบอลบนพื้นอยู่อีกหรือ

คนอย่าง คล็อปป์ ที่เน้นบอลสวย ต่อบอลตื่นตาตื่นใจเหนือผลลัพธ์การแข่ง (แบบที่เคยแซะ มูรินโญ ไว้นั่นแหละ) คงไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการบอมบ์ยาวตู้ม ๆ สวนเกมรุกของ สเปอร์ส นั้นได้ผลทีเดียวในเกมคืนที่ผ่านมา ผู้มาเยือนนั้นได้โอกาสมากกว่า ครองบอลมากกว่า แต่กลับเป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่ใช้โอกาสแต่ละครั้งไม่ค่อยเปลืองเท่าไหร่จากการบอมบ์สวนกลับและเรียกความหวาดเสียวให้ ไก่เดือยทอง ได้เสมอ ก่อนจะมาเสียประตูจนได้จากลูกเตะมุมท้ายเกม

เวสต์ 'บอมบ์' วิช จะมีคิวเตะหนีตายเกมสุดท้ายกับ คริสตัล พาเลซ ที่เพิ่งเขี่ย สโต๊ก ตกชั้นไปหมาด ๆ แต่ก่อนหน้านั้น พวกเขาต้องลุ้นให้ นักบุญ กับ หงส์ขาว เสมอกันก่อนในเกมกลางสัปดาห์  

การเห็น ยาน แฟร์ตองเก้น ต้องกระเผลกออกจากสนามไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่สำหรับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน แต่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ต้องลงมาเป็นกังวลในปียี้ด้วย เพราะหมายความว่าทีมชาติเบลเยียมของเขาอาจไม่มีกองหลังหมายเลข 1 ไปบอลโลกในปีนี้

ไม่รู้ว่า แฟร์ตองเก้น จะเจ็บหนักแค่ไหน แต่ก่อนหน้าเขาก็มีนักเตะดัง ๆ หลุดทีมชาติไปแล้วแน่ ๆ จากการบาดเจ็บ 2 ราย คือ อเล็กซ์ อ็อกเหลด-แชมเบอร์เลน ของ ลิเวอร์พูล และ โลร็องต์ กอสเซียลนี ของ อาร์เซนอล และนี่ยังไม่นับพวกที่เจ็บยาวจนจบฤดูกลและต้องรอเช็คความฟิตรอบสุดท้ายอีกอย่าง เซร์คิโอ โรเมโร เซร์คิโอ อเกวโร, โจ โกเมซ, อดัม ลัลลานา, เอ็มเร ชาน, มิชิ บัตชูอายี ไหนจะนักเตะที่เจ็บยาวจนเพิ่งได้โอกาสกลับมาไม่นานและยังไม่เต็มร้อยอย่าง เบ็นฌาแม็ง เมนดี้, นาธาเนียล ไคลน์, แดนนี โรส, มาร์กอส โรโฮ, รอส บาร์คลีย์ หรือ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

แม้หลาย ๆ ทีมจะมี 23 ตัวในใจไว้แล้ว แต่ช่วงนี้ก็ยัไม่สามารถประมาทได้เลยจริง ๆ เพราะนักเตะยังเจ็บได้เรื่อย ๆ ตลอดเวลา และดูเหมือนว่าจะมาแห่กันเจ็บช่วงนี้เสียด้วยสิ

แม้ผู้ทำประตูชัยจะเป็น เจค ลิเวอร์มอร์ แต่คนที่ควรได้รับคำชมไม่น้อยไปกว่ากองกลางตัวเก่งของทีมก็คือ คริส บรันท์ ที่เรียกได้ว่าปิดทองหลังพระสุด ๆ ในเกมนี้

บรันท์ ลงทำหน้าทีเป็นปีกซ้ายของทีม และเจ้าตัวก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียวในการช่วยเพื่อนร่วมทีมสกรีนบอลหน้ากรอบเขตโทษของทีมตัวเอง จนทำให้ ท็อตแนม แทบไม่สามารถหาช่องเจาะเข้าไปได้เลย แถมจังหวะเกมสวนกลับ บรันท์ ก็ยังทำได้เยี่ยม และสร้างปัญหาให้ ดาวินสัน และ ทริปเปียร์ ได้มากทีเดียว นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่มีโอกาสทำประตูมากที่สุดในทีมอีกด้วย

นับตั้งแต่หายจากอาการบาดเจ็บเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แดนนี โรส เพิ่งได้ลงเล่นในลีกแค่ 3 เกมเท่านั้น และออกสตาร์ทเป็นจริงแค่ 2 ครั้งในเกมกับ สโต๊ก เมื่อต้นเดือนที่แล้ว กับเกมนี้ แต่ฟอร์มโดยรวมของเขากลับไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย และยิ่งจะดูจืดสุด ๆ หากโดนไล่ออกในจังหวะตบหน้า อัลลัน นียอม ด้วย

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แผงแบ็คโฟร์ของ สเปอร์ส ที่ประกอบด้วย โรส, วอล์กเกอร์, แฟร์ตองเก้น และ อัลเดเอร์ไวเรลด์ นั้นยอดเยี่ยมสุด ๆ จนพา สเปอร์ส มีลุ้นเบียดชิงแชมป์กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ ก่อนจะพลาดไปแบบฉิวเฉียด แต่ในฤดูกาลนี้ แผงแบ็คโฟร์พวกเขาไม่เหมือนเดิม วอล์กเกอร์ อำลาทีมไปอยู่กับ เรือใบ อัลเดอร์ไวเรลด์ ก็มีปัญหากับผู้จัดการทีม ส่วนตัวเขาเองก็เจ็บยาวจนโดนดาวรุ่งอย่าง เบ็น เดวีส์ แย่งตำแหน่งตัวจริงไปแล้ว ส่วนเขาเป็นเพียงอะไหล่สำรองเท่านั้น

สถานการณ์ของ โรส ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจาก นาธาเนียล ไคลน์ ของ ลิเวอร์พูล หลังก่อนหน้านี้พวกเขาสถาปนาเป็นตัวจริงในตำแหน่งฟูลแบ็คซ้ายขวาของทั้งสโมสรและทีมชาติ แต่ปัจจุบันถูกดาวรุ่งในทีมแย่งตำแหน่งไปเกือบจะถาวรแล้ว ตอนนี้ยังงัดฟอร์มออกมาไม่ได้ โอกาสลงเล่นก็แทบจะไม่มี และในทีมชาติก็อาจจะหมดหวังแล้วด้วยซ้ำหากฟอร์มยังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป

ใครจะเชือว่าก่อนหน้านี้ เวสต์บรอมวิช มีแต้มตามโซนตกชั้นหลัก 10 คะแนน แต่หลังเกม เอฟเวอร์ตัน กับ เซาแธมป์ตัน จบลง พวกเขาจี้อันดับ 17 เหลือแค่ 2 คะแนนแล้วเท่านั้น แม้ว่าจะยังแข่มากกว่า 1 นัดก็ตาม

ก่อนเกมในสัปดาห์นี้จะเริ่มขึ้น เวสต์บรอมฯ อยู่อันดับ 20 มี 28 คะแนน หากพวกเขายังจะหวังรอดตกชั้น พวกเขาต้องลุ้นเงื่อนไขถึง 4 อย่าง

1. ลุ้นให้ สโต๊ก แพ้ 

2. สวอนซี แพ้ 

3. เซาแธมป์ตัน ไม่ชนะ

4. พวกเขาต้อชนะ สเปอร์ส

ปรากฏว่าทั้ง 4 อย่างดันถูกต้องทั้งหมดในเกมนี้ แถมเป็นการถูกต้องที่ว่า หากใครพนันรายละเอียดได้ถูกหมดคงรวยยิ่งกว่าตอน เลสเตอร์ เป็น แชมป์ซะอีก

สโต๊ก ขึ้นนำไปก่อน ก่อนที่จะมาโดนกองหลังอย่าง ฟาน อานโฮลต์ ยิงช่วง 10 นาทีสุดท้าย พา คริสตัล พาเลซ พลิก ชนะ สโต๊ก 2-1 สวอนซี ยิง บอร์นมัธ ที่เสียประตูมาตลอด 11 นัดไม่ได้ และต้องแพ้ไป 0-1 เซาแธมป์ตัน ที่กำลังจะเก็บ 3 แต้มอยู่รอมร่อ กลับต้องมาเหลือ 1 คะแนนแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อผู้ตัดสินทดเวลาเกินไป 1 นาที และนาทีสุดท้ายนั่นแหละที่ นักบุญ เสียประตูให้เจ้าบ้านตีเสมอสำเร็จ สุดท้าย ลิเวอร์มอร์ ยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาครึ่งหลังให้ เวสต์บรอมฯ เก็บ 3 แต้มจาก สเปอร์ส พร้อมหยุดสถิติการทำประตูคู่แข่งติดกัน 23 นัดของ สเปอร์ส ลงได้

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ และถ้าเกมนัดตกค้างระหว่าง สวอนซี กับ เซาแธมป์ตัน ยังจบลงด้วยการเสมอกันอีก เวสต์บรอมฯ นี่แหละ สวควรที่จะเป็นผู้รอดตกชั้นในฤดูกาลนี้