ข่าว 5 เรื่องควรรู้ !!! หลังเกม ปืนใหญ่ เปิดบ้านชนะ วัตฟอร์ด 3-0 พรีเมียร์ลีก 12 มี.ค. 2018

ท่ามกลางกระแสความกดดันอย่างหนักในตำแหน่งผู้จัดการทีมของ อาร์เซน เวนเกอร์ หลังจากมีช่วงที่ย่ำแย่ติดต่อกันมาหลายเกม สภาพคนดูในวันนี้จึงออกมาบางตาเป็นอย่างยิ่งสำหรับสนาม เอมิเรตส์ เป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่าเหล่า กันเนอร์ส เหลืออดกับฟอร์มการเล่นของทีมเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ไอ้ปืนใหญ่ ก็สามารถเข่นเอาชนะ วัตฟอร์ด ได้อย่างถล่มทลาย และน่าจะลดระดับความร้อนระอุของเก้าอี้ เวนเกอร์ ได้ในระดับหนึ่ง

ปีเตอร์ เช็ก ค้างสถิติคลีนชีทนัดที่ 199 มาเป็นเวลา 12 เกมติดต่อกันนับตั้งแต่ ไอ้ปืนใหญ่ เอาชนะ นิวคาสเซิล 1-0 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้เกมเมื่อไม่กี่นัดที่ผ่านมายังมีเครื่องหมายคำถามถึงฝีมือของเจ้าตัวที่ดูดร็อปลงไป รวมทั้งจังหวะผิดพลาดที่ทำให้ทีมเสียประตูอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เกมกับ วัตฟอร์ด เจ้าตัวก็สามารถช่วยทีมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเซฟลูกจุดโทษของ ดีนีย์ ในครึ่งหลัง และในที่สุดก็เป็นการรักษาคลีนชีทนัดที่ 200 ใน พรีเมียร์ลีก สำหรับเขา

วัตฟอร์ด ปล่อยให้ โอซิล มีพื้นที่ว่างให้เล่นและดาวเตะทีมชาติ เยอรมนี ก็ได้แผลงฤทธิ์แสดงให้เห็นถึงฝีเท้าฉกาจของเขารวมทั้งเทคนิตที่เรียกเสียงฮือฮาจากคนดูได้

โอซิล ทำให้เกมรุกของ อาร์เซนอล กลับมามีชั้นเชิงและดูดุดันขึ้นอีกครั้งกับแอสซิสต์ที่ 50 ของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีก

ถ้วยเล็กในรายการยุโรปดูจะกลายเป็นเป้าหมายหลักที่ เวนเกอร์ ตั้งเอาไว้ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอนแล้วเมื่อเราได้เห็นรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงออกมาในขณะที่พวกเขามีโปรแกรมเลกที่ 2 กับ เอซี มิลาน รออยู่ในวันพฤหัสบดีนี้

นายใหญ่ชาว ฝรั่งเศส พักนักเตะที่มักได้รับบาดเจ็บบ่อยๆ อย่าง แรมซีย์ กับ กอสเซียลนี โดยทั้งสองไม่มีชื่อในเกมวันนี้ โดยมี วิลเชียร์ เป็นตัวสำรอง ขณะที่ เอลเนนี, เมตแลนด์-ไนลส์ กับ อเล็กซ์ อิโวบี้ ออกสตาร์ทตั้งแต่ต้นเกม

แน่นอนว่าเราจะได้เห็นการหมุนเวียนนักเตะอีกครั้งในเกมวันพฤหัสบดีและต่อไปจนตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาลตราบใดที่พวกเขายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ยูโรป้า ลีก อยู่

ในเนื้อหาลงลึกของเกม ทั้งสองคนดูจะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีมมากอย่างที่ควรจะเป็นนัก แต่ท้ายที่สุดแล้วมาตรฐานการเล่นของพวกเขาก็ทำให้เกิดความแตกต่างในเกมวันนี้

มคิทาร์ยาน มักเสียบอลอยู่บ่อยครั้งและดูจะโดดเด่นในเกมรับมากกว่าเกมรุก แต่เขาก็สามารถทำแอสซิสต์ไปได้ 1 ครั้ง ขณะที่ โอบาเมยอง ที่เงียบเชียบและโดนตัดออกจากเกมก็ยังสามารถยิงได้ 1 ประตู 

ศูนย์หน้าชาว กาบอง มาได้อีก 1 แอสซิสต์ จากจังหวะใจกว้างไหลให้ มิคกี้ ยิงประตูปิดท้าย ซึ่งประตูที่เกิดขึ้นในจังหวะดังกล่าวน่าจะช่วยให้ทั้งสองคนมีความมั่นใจในการเล่นร่วมกันมากขึ้นอีกโข