ชาลเก้สุโค่ย!ตามครึ่งแรกสองลูกก่อนพลิกแซงเฮ 4-2
"ราชันสีน้ำเงิน"ชาลเก้ 04 โชว์สปิริตหัวใจนักสู้ให้แฟนบอลได้ชมเต็มๆหลังครึ่งแรกตามหลังไมนซ์ 05 สองลูกก่อนเร่งเครื่องในครึ่งหลังยิงสี่ตุงรวดแซงเฮสุดมัน 4-2
บุนเดสลีกา
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2554
ไมนซ์ 2-4 ชาลเก้
ประตู : 1-0 อันเดรียส อิวานซิตซ์ น.7,2-0 เอลกิ้น โซโต้ น.12,2-1 คลาส แยน ฮุนเตลาร์ น.57,2-2 เบเนดิคท์ โฮเวเดส น.64,2-3 โยเอล มาติ๊ป น.81,2-4 คริสเตียน ฟุคส์ น.90
คลิปไฮไลท์ ไมนซ์ 05 2-4 ชาลเก้ 04
เจ้าบ้านไมนซ์ 05 โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาหลังเก็บชัยชนะได้ทั้งหมดซึ่งวันนี้หากพวกเขาคว้า 3 คะแนนได้สำเร็จจะทำแต้มกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของตารางอีกครั้งโดยแนวรุกวางอันเดรียส อิวานซิตซ์ลงลาตาข่ายร่วมกับซามี่ อัลลากี
ด้านทีมเยือน"ราชันสีน้ำเงิน"ชาลเก้ 04 ออกสตาร์ทนัดแรกได้อย่างย่ำแย่หลังโดนสตุ๊ดการ์ทไล่ถล่มเละ 3-0 ก่อนเรียกศรัทธาจากแฟนบอลได้ในสัปดาห์ที่แล้วเมื่อเปิดบ้านสอนบอลโคโลญจน์ 5-1 โดยวันนี้วางราอูล กอนซาเลซและคลาส แยน ฮุนเตลาร์เป็นตัวความหวัง
ครึ่งแรก
ทีมเยือนทักทาย
เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาทีทีมเยือนชาลเก้ก็ได้โอกาสลุ้นประตูก่อนเมื่อแยน โมราเว็คครอสบอลให้คลาส แยน ฮุนเตลาร์ได้ยิงจากบริเวณฝั่งซ้ายของกรอบ 6 หลา บอลหลุดกรอบออกไป
เจ้าบ้านเฮก่อน
ทว่าในนาทีที่ 7 เจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 เมื่อโซลตัน สตีเบอร์เปิดลูกฟรีคิกจากกราบขวาเข้ากลางมาและเป็นอันเดรียส อิวานซิตซ์ที่สอดขึ้นมาตั้งเท้าแปรเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
เฟห์รมันน์พลาด
นาทีที่ 12 ไมนซ์พังประตูที่ 2 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ซามี่ อัลลากียิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ ราล์ฟ เฟห์รมันน์ทุบบอลออกมาไม่ดีไปเข้าทางเอลกิ้น โซโต้ที่ปรี่มาซ้ำเข้าไปอย่างง่ายๆ สกอร์ขยับเป็น 2-0 แล้ว
หอกชาลเก้ไม่เข้าใจกัน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 36 แนวรับไมนซ์พลาดเสียบอลให้ราอูล กอนซาเลซจ่ายบอลทะลุช่องเร็วได้สวยทว่าคลาส แยน ฮุนเตลาร์กลับวิ่งไปคนละทาง ทิ้งโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
อัลลากีปั่นได้เสียว
นาทีที่ 44 เกมสวนกลับเร็วของไมนซ์เกือบนำมาซึ่งประตูที่ 3 เมื่อมาร์เซล ริสเซ่ติดเครื่องขึ้นมากราบขวาก่อนเปิดบอลข้ามฝากให้โซลตัน สตีเบอร์เลี้ยงตัดเขากลางหนึ่งจังหวะและปาดออกซ้ายให้ซามี่ อัลลากีตั้งป้อมปั่นจากนอกกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาสองออกไปแบบได้เสียว ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าบ้านยังคงนำอยู่ 2-0
ครึ่งหลัง
ชาลเก้เปิดฉาก
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 2 นาที"ราชันสีน้ำเงิน"ได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวาและเป็นคริสเตียน ฟุคส์เปิดเข้ากลางมาให้ราอูล กอนซาเลซขึ้นเช็ด บอลเข้ากรอบแต่เบาไป ไฮนซ์ มุลเลอร์เหินคว้าติดมือ
ชูโป-โมติงยิงไกล
ต่อมานาทีที่ 54 เอริก แม็กซิม ชูโป-โมติงตัวสำรองได้โอกาสลองสับไกลยิงด้วยขวาจากระยะ 24 หลา บอลน้ำหนักใช้ได้แต่ไซร้หลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น
ราชันสีน้ำเงินตีไข่แตก
อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 57 ชาลเก้ก็ไล่ตามมาเป็น 2-1 จากจังหวะที่ลูอิส โฮลท์บี้จ่ายบอลทะลุช่องให้ราอูล กอนซาเลซหลุดขึ้นมาโล่งๆและอดีตหัวหอกเรอัล มาดริดก็ใจกว้างประดุจแม่น้ำปาดบอลออกซ้ายให้คลาส แยน ฮุนเตลาร์ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่ายิงเข้าไปอย่างง่ายๆ
โฮเวเดสตีเสมอ
นาทีที่ 64 ทีมเยือนก็ตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อเจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟานเปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายโค้งมาที่เสาสองให้เบเนดิคท์ โฮเวเดสฉีกตัวมาโหม่งโล่งๆคนเดียวไม่เหลือ สกอร์กลับมาเท่ากันแล้วที่ 2-2
เจ้าบ้านเฮเก้อ
หลังจากนั้น 11 นาทีออยเก้น โพลันสกี้ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลไปชนเสาซ้ายมือกระดอนออกมาเข้าทางเอริก แม็กซิม ชูโป-โมติงตามซ้ำเข้าไปตุงตาข่ายทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้า
ฮุนเตลาร์โขกหลุด
ถัดมานาทีที่ 79 เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟานบรรจงตักบอลไปที่เสาสองไปให้คลาส แยน ฮุนเตลาร์โขกเต็มๆคนเดียว บอลหลุดเสาขวามือออกไปไม่ไกลนัก
ชาลเก้เด็ด!แซงนำ 3-2
ทว่าในนาทีที่ 81 ชาลเก้ก็แซงนำ 3-2 ได้สำเร็จเมื่อเจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟานเปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้ากลางมา บอลชุลมุนหน้าปากประตูก่อนจังหวะสุดท้ายเป็นโยเอล มาติ๊ปโขกเข้าไปตุงตาข่าย
ฟุคส์สังหารฟรีคิก
ในนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ ชาลเก้ก็ได้ประตูปิดเกม 4-2 เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวาและเป็นคริสเตียน ฟุคส์รับหน้าที่สังหารส่งบอลเสียบเสาซ้ายมือเข้าไปอย่างสวยงาม
จบเกม"ราชันสีน้ำเงิน"ชาลเก้ 04 บุกมาเอาชนะไมนซ์ 05 ไปได้แบบสุดมัน 4-2 พร้อมทำคะแนนขึ้นมารั้งอันดับที่ 3 ของตารางบุนเดสลีกาแล้วส่วนเจ้าบ้านร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 8
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ไมนซ์ : ไฮนซ์ มุลเลอร์,นิโคลเค่ โนเวสกี้,มาร์โค คาลิกูรี่,โบ สเวนส์สัน,มาลิค ฟาธี,มาร์เซล ริสเซ่(เอริก แม็กซิม ชูโป-โมติง น.46),ออยเก้น โพลันสกี้,เอลกิ้น โซโต้(ปีเตอร์ ซลิสโควิช น.78),โซลตัน สตีเบอร์(แยน เคิร์ชฮอฟฟ์ น.61),อันเดรียส อิวานซิตซ์,ซามี่ อัลลากี
ชาลเก้ : ราล์ฟ เฟห์รมันน์,คริสเตียน ฟุคส์,เบเนดิคท์ โฮเวเดส,คีเรียคอส ปาปาโดปูลอส,มาร์โค โฮเกอร์,โยเอล มาติ๊ป,ลูอิส โฮลท์บี้,แยน โมราเว็ค(เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน น.46),โฆเซ่ ฆูราโด้(จูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์ น.46),ราอูล กอนซาเลซ,คลาส แยน ฮุนเตลาร์(ชิเปรียน มาริก้า น.86)
////////////////////////////////////////////////////////////