ข่าว 5 เรื่องควรรู้ ! หลังเกม บราซิล เอาชนะ คอสตาริก้า 2-0 บอลโลก 2022 23 มิ.ย. 2018

แม้สกอร์จะจบลงที่ 2-0 แต่เป็นอีกเกมในบอลโลกครั้งนี้ที่ทำให้เห็นว่าต่อให้คุณเป็นทีมที่เล็กกว่า การมีวินัยในเกมรับและการฉวยโอกาสที่ดีก็สามารถช่วยให้คุณมีโอกาสล้มยักษ์ได้

บราซิล กดดัน คอสตาริก้า ได้ทั้งเกมแต่กลับไม่สามารถเจาะประตูได้เลยตลอด 90 นาทีปกติ ซึ่งต้องขอบคุณการเซฟนับครั้งไม่ถ้วนของ เคย์ลอร์ นาบาส ในขณะที่เกมสวนกลับของ คอสตาริก้า ก็มีโอกาสได้ประตูเหมือนกัน โดยเฉพาะลูกยิงของ เซลโซ บอร์เกส ในครึ่งแรก หาก บอร์เกส ทำประตูได้ ไม่แน่ว่าเกมนี้อาจจะมีพลิกล็อกอีกเหมือนกัน

ตั้งแต่เริ่มเกมนัด 2 มา ทีมอย่าง อิหร่าน, ซาอุดิ อาระเบีย, โมร็อกโก และ เปรู ต่างแพ้คู่ต่อที่เก่งกว่ามากไปเพียงประตูเดียวทั้งนั้น ซึ่งผิดกับฟุตบอลโลกครั้งอื่น ๆ อย่างชัดเจน ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นปีที่เราได้เห็นผู้ท้าชิงในรอบน็อคเอาท์ลึก ๆ หน้าแปลก ๆ บ้างก็ได้

ดาวเตะราคาตัวแพงสุดในโลกเวลานี้อย่าง เนย์มาร์ ทำประตูได้แล้วในเกมคู่หัวค่ำที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับทำผลงานได้ค่อนข้างน่าผิดหวังเหลือเกิน

เนย์มาร์ เป็นนักเตะที่ได้บอลเยอะที่สุดคนนึงของ บราซิล ในเกมนี้และมีโอกาสยิงอีกหลายครั้งด้วย แต่เขาไม่สามารถที่จะเจาะประตูของ เคย์ลอร์ นาบาส ได้เลย และทำได้ใกล้เคียงเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขายังโชว์ไม่ค่อยออกก็เพราะการถูกจับตายโดยนักเตะ คอสตาริก้า นี่แหละ นักเตะอย่าง คริสเตียน กัมบัว, จอห์นนี อคอสต้า, ออสการ์ ดูอาร์เต้ ทำได้ดีในการเข้าไปพันแข้งพันขา เนย์มาร์ จนเขาไม่มีโอกาสได้ทำอะไรมาก และเป็นที่มาที่ทำให้เขาต้องพยายามลองยิงจากแถวสองมากกว่า

บราซิล ยังไม่เข้ารอบเสียทีเดียว เพราะยังมีเกมสุดท้ายกับ เซอร์เบีย รออยู่ ซึ่งถ้าหาก เนย์มาร์ ยังฟอร์มไม่มา ในเกมสุดท้ายของกลุ่มแล้วละก็ เขาอาจหมดสิทธิ์ได้โชว์ในฟุตบอลโลก 2018 อีกก็เป็นได้ 

การต่อบอลอันรวดเร็วคือสิ่งที่ทำให้ บราซิล น่ากลัวสุด ๆ แล้วรู้ไหมว่าอะไรที่พวกเขาขาดไปในเกมนี้ ก็การต่อบอลอันรวดเร็วไงล่ะ

ไม่ว่าเกมจะบุกขึ้นขากฝั่งซ้าย ฝั่งขวา หรือกลางสนาม พวกเขามักใช้เวลาไปกับการวิเคราะห์เกม เขี่ยบอลหาช่องไปมา ซึ่งผิดวิสัยสุด ๆ โดยเฉพาะในครึ่งแรก เมื่อพวกเขาลองต่อบอลแล้วไม่สำเร็จ พวกเขาก็จะหยุดการเล่นเกมเร็วแล้วไปเน้นการครองบอลไปเลย ซึ่งคนที่เห็นชัดที่สุดก็คือ วิลเลียน ที่ไม่สามารถหาช่องเจาะได้อย่างตอนที่ทำกับ เชลซี หรือแม้แต่การยืน ของ เชซุส เองที่ไม่ได้ทำให้เพื่อนสามารถเล่นบอลด้วยได้ 

เกมที่สามกับ เซอร์เบีย อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาที่จะได้แสดงศักยภาพที่มีออกมาให้เห็น และพวกเขาจำเป็นต้องเชื่อมั่นมากกว่านี้ หากอยากจะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 ให้ได้เป็นทีมแรก

นาบาส ตกเป็นเป้าหมายโดนด่าสำหรับเกมรับ มาดริด ที่พังไม่เป็นท่าในฤดูกาลที่ผ่านมา และ ฟลอเรนติโน เปเรซ ก็ไม่เคยปิดบังว่าเขาอยากได้นายทวารคนอื่นอย่าง เด เคอา หรือ กูร์กตัวส์ มาเฝ้าเสามากกว่า

แต่จากฟอร์มในเกมกับ เซอร์เบีย และ บราซิล มันทำให้เห็นว่า นาบาส นี่แหละเหมาะแล้วที่จะยืนเฝ้าเสาให้ ราชันชุดขาว ต่อไป เขาอ่านเกมดี ปฏิกิริยาไว และที่สำคัญคือการยืนตำแหน่งได้ถูกต้อง 

ลูกยิงของ บราซิล จำนวนไม่น้อยที่ยิงตรงกรอบ แต่ไม่ผ่านซองของ นาบาส และเขาก็ช่วยให้ทีมยังเก็บคลีนชีตจนจบ 90 นาทีปกติได้อีกด้วย ส่วน 2 ประตูท้ายเกมก็เกินวิสัยที่เขาจะช่วยทีมได้มากกว่า เพราะฉะนั้น การเมิน นาบาส ไปหานายทวารคนอื่นที่ฝีมือพอ ๆ กันในระดับโลกก้คงไม่ใช่เหตุผลที่สมควรนัก

นาบาส อาจจะหยุดเส้นทางในบอลโลกปีนี้แค่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ฝีมือของเขาไม่ได้หยุดลงแค่นี้ด้วย ซึ่งถ้าหาก โลเปเตกี โค้ชคนใหม่ของ มาดริด ไม่ไร้เหตุผลจนเกินไป โอกาสของ นาบาส ที่จะได้เป็น 1 ของทีมก็ไม่น่าหลุดหายไปไหนแน่นอน และนั่นจะทำให้ข่าวของ มาดริด กับ อลิสซอน, กูร์กตัวส์, เด เคอา ควรจะหยุดลงแค่ในปีนี้

ก่อนเกมนี้จะเกิดขึ้น VAR ถูกใช้มามากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็ลงเอยด้วยการเป็นจุดโทษซะส่วนใหญ่ จนเป็นสาเหตุให้ตอนนี้มีจุดโทษเกิน 10 ครั้งเข้าไปแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่พ้นเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินชาวดัตช์กลายเป็นคนแรกที่ตัดสินใจยกเลิกจุดโทษที่ตัวเองเพิ่งให้หลังจากดู VAR และ เนย์มาร์ ก็กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ไม่ได้ลูกจุดโทษจาก VAR ไปโดยปริยาย

การใช้ VAR จะเกิดเขึ้นอย่างเข้มข้นในนัดที่เหลือของฟุตบอลโลก 2018 อย่างไม่ต้องสงสัย และจะมีลูกจุดโทษจำนวนมากที่ทั้งเป่าให้และถูกยกเลิกไปในทัวร์นาเมนท์นี้อย่างแน่นอน