มีต๊อตตี้เราไม่กลัว!ยิงสองจ่ายเบิ้ลหมาป่าขยี้ม่วง4-2ขึ้นที่4
อะไรก็ฉุดไม่อยู่ยามใดที่ ฟรานเชสโก้ ต๊อตตี้ เข้าฝักรับบทพระเอกมีส่วนร่วมทุกประตูทั้งยิงสองและแอสซิสต์อีกสองดลบันดาลชัย "หมาป่า" โรม่า ไล่ต้อน "วิโอล่า" ฟิออเรนติน่า 4-2 พร้อมไต่อันดับแซงทีมม่วงยู่ที่ 4 ชั่วคราว
ผลฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา
วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2555
โรม่า 4-2 ฟิออเรนติน่า
ประตู: 1-0 เลอันโดร ทาชท์ซิดิส น.7,1-1 ฟากุนโด รอนกาย่า น.13,2-1 ฟรานเชสโก้ ต๊อตตี้ น.19, 3-1 ฟรานเชสโก้ ต๊อตตี้ น.45,3-2 มูเนียร์ เอล ฮัมดาอุย น.46,4-2 ปาโบล ออสวัลโด้ น.90
ครึ่งแรก
เปิดฉากแค่ 5 นาทีเท่านั้น "วิโอล่า" ทีมเยือนฉวยโอกาสทักทายก่อนจากจังหวะ โทนี่ ทำทางไหลไปทางซ้าย ปาสกวาล สับไกยิงระยะ 20 หลาเข้าซอง กอยโคเชีย นายด่านหมาป่า
"หมาป่า" บุกครั้งแรกได้ประตูขึ้นนำทันทีตั้งแต่นาที 7 จากจังหวะฟรีคิกบริเวณตรงกลาง 40 หลา ต๊อตตี้ โยนเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวา ทาสท์ซิดิส พุ่งโหม่งกดลงพื้นบอลกระดอนย้อยข้ามหัวนายทวาร วิเวียโน่ เลยข้ามเส้นไปทั้งใบแล้วก่อนมีเพื่อนตามซ้ำตุงตาข่าย
โดนนำเร็วแข้งวิโอล่าไม่เสียขวัญเปิดเกมบุกเข้าใส่แค่ 7 นาทีต่อมาเอาคืนตามเจ๊า 1-1 อาควิลานี่ เปิดฟรีคิกฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้าย โรดริเกซ ไม่ล้ำหน้าตวัดเข้ากลางแผงหลังหมาป่าเช็คล้ำหน้าพลาดปล่อยให้ ทาชท์ซิดิส รออยู่หน้าปากประตูยิงโล่งๆแค่ 5 หลาไม่เหลือ
แต่ โรม่า ปล่อยให้ดีใจแค่ 5 นาทีเท่านั้นนาที 19 ขยับหนี 2-1 จากการประสานงานสุดสวยเริ่มจาก ต๊อตตี้ ทำชิ่งให้ เดสโตร หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาเงยหน้ามองก่อนส่งกลับให้เจ้าชายหมาป่าโชว์ทักษะเดาะด้วยขวาก่อนดีดด้วยข้างเท้าเดียวกันตุงตาข่าย
ตกเป็นฝ่ายตามหลังอีกแล้วทำให้ "วิโอล่า" จำเป็นต้องบุกเพื่อคืนแผงหลังดันขึนสูงเลยเกิดพื้นที่ว่างเยอะให "หมาป่า" วางบอลยาวนาที 36 เกือบจะได้ประตูที่สาม ปานิช หลุดเข้าไปล่อเป้าจ่อๆหน้าปากประตุแต่ยังไปติดซูเปอร์เซฟ วิเวียโน่ ล้มตัวปลายนิ้วมือเฉียดเสา
เข้าสู่ท้ายครึ่งแรกเหลือห้านาทีก่อนพักเบรก "จัลโล่รอสซี่" พลาดโอกาสทองได้ประตูเพิ่มลักษณะคล้ายลูกแรก ต๊อตตี้ เปิดฟรีคิกฉมังวางเข้าไปในกรอบเขตโทษแม่นยำ ทาชท์ซิดิส คนเดิมพุ่งโหม่งโล่งๆข้ามคานนิดเดียว
เกมครึ่งแรกทำท่าจะจบลง 2-1 แต่ความมหัศจรรย์ของ ต๊อตตี้ บวกประตูเพิ่มบัลซาเร็ตติ ไหลให้เจ้าชายหมาป่าสบโอกาสวางเท้าสับไกเต็มข้อระยะ 25 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดสุดปัญญาที่ วิเวียโน่ นายทวารพุ่งไปยังไงก็ไม่ทัน จบครึ่งแรก โรม่า นำ 3-1
ครึ่งหลัง
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ไม่ถึงนาที "วิโอล่า" เล่นทีเผลอไล่จี้บี้ติด 2-3 บาเลโร่ กระชากมาทางขวาก่อนโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ เอล ฮัมดาอุย ตัวสำรองโขกจ่อๆแค่สามหลาตุงตาข่าย
พอโดนไล่จี้ "หมาป่า" ลุยทันทีอีกนาทีถัดมาเกือบได้ประตูที่ 4 ปานิช กระชากมาถึงเส้นหลังในเขตโทษทางขวาก่อนผ่านมายังเสาแรก ฟลอเรนซี่ โขกติดเซฟ วิเวียโน่ ปัดออกมาก่อนที่กองหลังช่วยกันสกัดทิ้ง
เกมทั้งสองทีมต่างเปิดเกมแลกกันแล้วนาที 55 โรม่า พลาดโอกาสทองได้ประตูที่ 4 แบบไม่น่าเชื่อจากจังหวะ ทาสช์ซิดิส โยนบอลยาวจากกลางสนามไปทางขวา ปานิช เอาบอลลงได้สวยก่อนครอสเข้ากลาง แบร็ดลี่ย์ ยิงจ่อๆติดซูเปอร์เซฟ วิเวียโน่ ปัดออกมา เดสโตร ตามซ้ำดาบสองแต่ติดบล็อค โรดริเกซ ล้มตัวสกัดแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
"วิโอล่า" ชักบุกไม่ขึ้นเสียแล้วผ่านหนึ่งชั่วโมง ต๊อตตี้ พลาดโอกาสทำแฮททริคเมื่อหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายพยายามจับบอลยาวเกินไปเลยโดน วิเวียโน่ นายทวารสกัดทิ้ง
นาที 73 โรม่า ต้องเฮเก้ออุตส่าห์ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้แล้วจากจังหวะ ต๊อตตี้ เปิดฟรีคิกทางซ้ายโค้งไปยังเสาสอง เดสโตร โขกจ่อๆติดเซฟ วีเวียโน่ ปัดทิ้งออกมากระดอนให้ มากินญอส ตามซ้ำดาบสองไม่เหลือ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงฟ้อง เดสโตร ล้ำหน้า
เวลาที่เหลือเกมอยู่ในคอนโทรลของแข้งจัลโรอสซี่ควบคุมสถานการณ์เน้นรับเหนียวแน่น ขณะที่ "วิโอล่า" ไม่มีอะไรจะเสียต้องเอาคืนก่อนหมดเวลานาทีเดียวเกือบตามตีเสมอ เซเฟโรวิช ตัวสำรองกระชากไปยิงตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตู กอยโคเชีย ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งเป็นลูกเตะมุมโยนโค้งจากทางซ้าย กอยโคเชีย ออกมาตัดวืดไม่ดอนบอลกำลังจะเสียบตาข่ายยังดีมี แบร็ดลี่ย์ ยืนคุมเส้นเตะสกัดบนเส้นประตู
นาทีสุดท้าย "ม่วงมหากาฬ" ดันขึ้นสูงเพื่อตีเสมอให้ได้เลยโดน "จัลโล่รอสซี่" สวนกลับพังประตูตอกฝาโลง ต๊อตตี้ ใจกว้างเป็นแม่น้ำหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายไม่ยิงเองไหลให้ ออสวัลโด้ จิ้มลอดขานายทวารทีมเยือนเสียบตาข่าย จบเกม โรม่า ถล่ม ฟิอออเรนติน่า 4-2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โรม่า(4-3-3): กอยโคเชีย-ปิริส,มาร์กินญอส,คาสตาน,บัลซาเร็ตติ-แบร็ดลี่ย์,ทาชท์ซิดิส(เด รอสซี่ น.64),ฟลอเซนซี่(แปร์ร็อตต้า น.64)-ปานิช,เดสโตร(ออสวัลโด้ น.73),ต๊อตตี้
ฟิออเรนติน่า(3-5-2): วิเวียโน่-รอนกาย่า,โรดริเกซ,วาซิช-คาสซานี่(เอล ฮัมดาอุย น.46),บาเลร่า,โอลิเวร่า(เฟร์นานเดซ น.46),อาควิลานี่,ปาสกวาล-กวาดราโด้,โทนี่(เซเฟโรวิช น.88)