เฟร็ดเซฟชีวิต!แซมบ้าไล่เจ๊าหมีขาว น.90 อุ่นฯมายังไม่ชนะ
นึกว่าจะมาแพ้อีกซะแล้วสำหรับบราซิลในยุคที่สองของสโคลารี่ เมื่อพวกเขาโดนรัสเซียนำอยู่จนจะหมดเวลาอยู่แล้ว แต่สุดท้ายมาได้ประตูของเฟร็ดที่ช่วยยิงเซฟในนาทีสุดท้าย จบเกมเลยเสมอ 1-1 อุ่นเครื่องมา 3 เกมเจ้าภาพฟุตบอลโลกยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น
อุ่นเครื่องทีมชาติ
วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2556
บราซิล 1 - 1 รัสเซีย
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ประตู :0-1 ฟายต์ซุลิน น.75, 1-1 เฟร็ด น.90
คลิปไฮไลท์ กระชับมิตรทีมชาติ บราซิล 1-1 รัสเซีย
บราซิลได้กลับมาอุ่นเครื่องกับรัสเซียอีกครั้ง หลังจากเมื่อครั้งก่อนก็กระชับมิตรกันไป เป็นขุนพล "แซมบ้า" ที่เอาชนะไปได้ 1-0
เกมนี้พลพรรคจากแดนกาแฟจัดเต็มเลย ให้ทั้งเนย์มาร์และกาก้าลงสนาม รวมทั้งสองนักเตะของเชลซีที่ได้เตะในบ้านตัวเองอย่างลูอีซกับออสการ์ลงเล่นด้วย
ด้านรัสเซียแม้จะหมดยุคของอาร์ชาวินที่โรยราฟอร์มหดหายไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีเคอร์ชาคอฟเป็นที่พึ่งในแดนหน้าได้อยู่
ครึ่งแรก
แซมบ้ายังซ่าไม่ออก
ช่วงต้นเกมบราซิลเหมือนยังติดๆขัดๆกับจังหวะการเล่นของตัวเองอยู่ ต่อกันไม่ค่อยจะติดเท่าไหร่ ทำให้เป็นรัสเซียที่พยายามจะลุ้นลุยขึ้นหน้าเพื่อไปลุ้นประตูอยู่สักหน่อย
เกมอย่างเร็ว-แซมบ้ามาแล้ว
แปบๆไม่ทันไรเกมเข้า 20 นาทีอย่างกับไม่ใช่อุ่นเครื่อง แต่ตอนนี้บราซิลเข้าที่เกมรุกเริ่มมาทำให้พวกเขากลายเป็นฝ่ายขึงทางรัสเซียแทน ถ้าลองได้นวดแบบนี้เรื่อยๆล่ะก็นึกภาพการทำประตูเอาไว้ได้เลยเหมือนกัน
เนย์มาร์เอาไม่อยู่
นาทีที่ 23 ลูอีซถือว่าเติมมาเปิดได้อย่างสวยเลย กับจังหวะที่บราซิลเหมือนจะโดนเบรกโอกาสจากการถูกกองหลังสกัดบอลออกมาแล้ว แต่แข้งเชลซีพุ่งสวนครอสลูกอันตรายเข้ากลางอีกดอก บอลเลยไปถึงเนย์มาร์ทางเสาไกล แต่จังหวะพยายามจะแต่งลงโดนเข้าสกัดก่อน อดเลย
เนย์มาร์หวงบอลไปนะ
นาทีที่ 32 จังหวะนี้ตัวเลือกมีมากพอสมควร ทั้งกาก้าเองก็ขยับวิ่งอ้อมเติมให้ไหลเปิดโอกาสได้แล้ว แต่เนย์มาร์ที่ครองบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษกลับเลือกที่จะยึกยักไปมาแล้วหวังแหวก 3 ผู้เล่นของรัสเซียที่ยืนบังอยู่ สุดท้ายก็ตามคาดโดนสกัดไปเลย
เติมงาม!ฟายต์ซุลินขยับขึ้นหวด
นาทีที่ 42 หลังจากโดนบราซิลกดอยู่พักใหญ่ก็มีช่วง 5-6 นาทีหลังมานี้ที่รัสเซียได้โต้ได้บุกบ้าง แต่ที่เน้นๆสุดคงเป็นจังหวะที่เคอร์ชาคอฟได้บอลแตะเข้ากลางก่อนดึงจังหวะรอเพื่อนเติมแล้วไหลต่อให้กับฟายต์ซุลินที่แตะได้ปุ้บพี่แกก็ซัดปั้บ แม้ว่าบอลจะไม่ตรงกรอบติดหน้าต่าง แต่ก็เป็นจังหวะที่ลงตัวดี
จบ 45 นาทีแรกลงไปพร้อมกับสกอร์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงต้นเกม ทั้งสองฝ่ายยังคงเสมอกันอยู่ 0-0 ต้องดูว่าจะจบเหมือนเดิมกับเมื่อนัดก่อนไหม
ครึ่งหลัง
กาก้าลากงามจริงเชียว
นาทีที่ 56 เกมยังมาทรงเดิมคือบราซิลได้บุก แต่ที่น่าตื่นตาที่สุดคงไม่พ้นการพาบอลลากยาวของกาก้าจากครึ่งสนาม หลบผู้เล่นรัสเซียไปได้ 2 ก่อนจิ้มต่อให้เฟร็ดเล่นขิ่งตอกส้นคืนมา น่าเสียดายจังหวะจะหลุดเข้าเขตโทษโดนจิ้มไว้ได้ซะก่อน
แซมบ้าลุยหนักจริงๆ
เกมผ่านหนึงชั่วโมงเต็ม บราซิลใส่เกียร์ 6 หวังจะทำประตูรัสเซียให้ได้ ทั้งพื้นดินและอากาศเจาะลุยหมดทุกสูตร แต่มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ใกล้เคียงกับการใส่สกอร์มากสักเท่าไหร่เลย
ง่ายไป!เนย์มาร์พยายามปั่น
นาทีที่ 72 พยายามหาโอกาสลุ้นประตูน่าดูสำหรับเนย์มาร์ที่วิ่งย้อนกลับไปเอาบอลซึ่งเพื่อนพยายามเปิดมาให้ที่นอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะพยายามแต่งแล้วปั่นเน้นๆด้วยเท้าขวาก่ะให้เสียบเสา แต่บอลมันไม่มุมพอ กาบูลอฟเลยรับสบาย
หัวใจกูจะวาย!หมีขาวยิงแล้วยิงอีกจนได้
นาทีที่ 75 นึกว่าจะไม่ได้ซะแล้วสำหรับจังหวะนี้ของรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้โต้บุกแล้วทำได้ดี โยกจนกองหลังของบราซิลรวน ก่อนจะเปิดเข้ากลาง แม้ว่าจะมีตัวยืนบล็อกอยู่ แต่พวกเขาก็ใจเย็นสุดๆ ค่อยถ่ายบอลหาทางโยกสลับไปมาซ้ายขวา ก่อนตบเข้ากลางอีกดอก แม้จังหวะแรกจะยิงติด แต่ฟายต์ซุลินก็ตามเข้าซ้ำดาบสองทะลุทั้งเซซาร์และกองหลังเข้าประตูไป รัสเซียทำได้นำ 1-0
แซมบ้าพยายามจะเอาคืน
โดนนำไปก่อนแบบนี้หน้ามืดเหมือนกันสำหรับบราซิลที่ผลงานอุ่นเครื่องช่วงหลังไม่ดีเอาซะเลย อย่างน้อยเกมนี้จะแพ้คงไม่ใช่เรื่อง แต่แม้ว่าจะพยายามลุยแค่ไหน เมื่อเจอกับเกมรับเหนียวแน่นของรัสเซียในแบบฉบับของคาเปลโล่แล้วก็เล่นยากเอามากๆ
หมีขาวประกบหนึบทุกราย
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ยากจริงๆสำหรับบราซิล เพราะนอกจากพวกเขาจะเล่นเกมรุกไม่ได้จี๊ดจ๊าดดั่งใจหวังแล้ว ยังต้องเจอกับความหนึบในการไล่เบียดประกบของผู้เล่นรัสเซียที่ไม่ห่างเลยแม้แต่นิดเดียวอีกด้วย
บิ๊กฟิลเป่าปาก!มาร์เซโล่ตบให้เฟร็ดสบาย
นาทีที่ 90 จนแล้วจนรอดก็หนีพ้นความพ่ายแพ้จนได้สำหรับบราซิลที่มาได้ประตูตีเสมอจากความยอดเยี่ยมของมาร์เซโล่ที่เล่นชิ่งกับฮัลค์ก่อนจะทะลุยาวขึ้นไปแล้วตบคืนกลับให้เฟร็ดเข้าแท็ป-อินไม่มีเหลือ เสมอกัน 1-1 พร้อมกับการจบลงด้วยสกอร์นี้ ถือว่าบราซิลเอาตัวรอดได้เหมือนกัน เพราะหากจบด้วยผลแพ้คงโดนวิจารณ์ไม่น้อย
บราซิลคงต้องเร่งฟอร์มขึ้นมาเยอะๆสักหน่อย เพราะแม้จะบอกว่าเกมอุ่นเครื่องของพวกเขาหิน แต่การเล่นยังติดขัดอยู่หลายอย่าง ทั้งในเกมแพ้อังกฤษและเสมอกับอิตาลีมาด้วย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
บราซิล : ฮูลิโอ เซซาร์, ดานี อัลเวส, ธิอาโก้ ซิลวา, ดาบิด ลูอีซ, มาร์เซโล่, เฟร์นานโด, ออสการ์(ฮัลค์ น.67), เฮร์นาเนส, กาก้า(คอสต้า น.78), เฟร็ด, เนย์มาร์
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่ ดิเอโก้, บอนฟิม ดานเต้, ฟิลิเป้ คาสเมียร์สกี้, ฮวน, ลุยส์ กุสตาโว ดิอาส, ออสวัลโด้
รัสเซีย : วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ, อเล็คซานเดอร์ อนิยูคอฟ(คอมบารอฟ น.45), เซร์จี้ อิ๊กนาเชวิช, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, อังเดร เยสเชงโก้, เดนิส กลูชาคอฟ, โรมัน ชิโรคอฟ, วลาดิเมียร์ บายสตอฟ(ชาตอฟ น.45), วิคเตอร์ ฟายต์ซุลิน, อเล็กซานเดอร์ โคโคริน(ซีคอร์ฟ น.45(เกียร์โกเรฟ น.87), อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อีกอร์ อคินฟาเยฟ, เซร์จี้ เรซีคอฟ, คิริล นาบับคิน, วลาดิเมียร์ กราแนต, อลัน ดซาโกเยฟ, ดิมิทรี่ ทาราซอฟ, มัคซิม กริโกเรฟ